มือถือกันน้ำ 2025 ระดับ IP68/IP69 แม้ทำตกน้ำก็ไม่พัง มีรุ่นไหนบ้าง ?

แนะนำมือถือกันน้ำ 2025 ที่มีคุณสมบัติทนน้ำระดับ IP68 หรือ IP69 แม้ทำตกน้ำก็ไม่พัง มีรุ่นไหนใหม่ ๆ น่าสนใจบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้ว !

มือถือกันน้ำ

ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้นั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่ในรุ่นระดับเรือธงเท่านั้น แต่รุ่นระดับกลางหรือแม้แต่หลักพันก็มีหลายรุ่นที่สามารถกันน้ำได้เช่นกัน สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือกันน้ำมาใช้สักเครื่อง วันนี้เราก็ได้คัดเลือกรุ่นที่มีคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IP68 หรือ IP69 ซึ่งเป็นระดับที่กันน้ำได้ดีที่สุดมาแนะนำเพื่อน ๆ กันแล้ว ไม่ว่าจะทำโทรศัพท์ตกน้ำ เปียกขณะเล่นน้ำในวันสงกรานต์ หรือสถานการณ์ไหน ๆ ก็หมดห่วงเรื่องน้ำเข้าเครื่องได้เลย

IP68 และ IP69 กันน้ำได้แค่ไหน

IP ย่อมาจาก Ingress Protection เป็นมาตรฐานสากลสำหรับวัดระดับการกันน้ำและกันฝุ่นของอุปกรณ์ และจะมีตัวเลขตามหลัง IP อีก 2 ตัว โดยตัวเลขแรกหมายถึง ระดับการป้องกันของแข็ง รวมถึงฝุ่น มีระดับตั้งแต่ 0-6 ส่วนตัวเลขหลังหมายถึง ระดับการกันน้ำของอุปกรณ์ มีระดับ 0-9 ซึ่งสำหรับการกันน้ำเราจะดูที่ตัวเลขหลังสุดเป็นหลัก โดย IP68 จะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามือถือรุ่นนั้นสามารถกันน้ำลึกกว่า 1 เมตร ได้นานกว่า 30 นาที ส่วน IP69 จะสามารถทนต่อน้ำแรงดันสูงและอุณหภูมิสูงได้นั่นเอง โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ค่าตัวเลข IPXX ของมือถือกันน้ำหมายความว่าอะไรบ้าง ?

โทรศัพท์กันน้ำได้ 2025 ยี่ห้อไหนดี

1. realme C75x

realme C75x

ภาพจาก : realme.com

มือถือทนทานราคาประหยัดจาก realme ที่มาพร้อมหน้าจอถนอมสายตาขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด HD+ รองรับ 120Hz ชิปประมวลผล MediaTek Helio G81 Ultra แรม 6GB มีฟีเจอร์ Dynamic RAM ขยายเพิ่มเป็นสูงสุด 18GB ความจุ 128GB กล้องหลัง AI 50MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5600mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W กันน้ำ-กันฝุ่นที่มาตรฐาน IP69 & IP68 & IP66 ตัวเครื่องบอดี้ ArmorShell ปกป้องรอบด้าน ทนทานแรงกระแทกระดับมาตรฐานการทหาร และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0

  • realme C75x 6GB/128GB ราคา 4,999 บาท

2. TECNO CAMON 40 Pro

TECNO CAMON 40 Pro

ภาพจาก : tecno-mobile.com

มือถือ TECNO รุ่นเน้นกล้อง ในราคาหลักพัน โดยจะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED สว่าง ขอบโค้ง ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G100 Ultimate กล้องหลังคู่ 50MP Sony's LYT-700C OIS ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ดี กล้องหน้า 50MP AF มีปุ่ม One-Tap Button สำหรับเรียกใช้ฟีเจอร์ FlashSnap และ Ella AI อย่างรวดเร็ว แรม 8GB พร้อมฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มอีก 8GB รวมเป็นสูงสุด 16GB ความจุ 256GB มีคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นที่มาตรฐาน IP68/IP69 แบตเตอรี่ 5200mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 พร้อม TECNO AI

  • TECNO CAMON 40 Pro 8GB/256GB ราคา 6,999 บาท

3. POCO F7 Series

POCO F7 Series

ภาพจาก : mi.com

POCO F7 Series มือถือเรือธงล่าสุดจากแบรนด์ลูกของ Xiaomi ที่มาพร้อมสเปกค่อนข้างแรง สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหล รวมทั้งรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยความเร็วสูง และมีคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นที่ระดับ IP68 โดยตัวท็อปสุด POCO F7 Ultra จะมีหน้าจอแสดงผล Flow AMOLED DotDisplay ความละเอียดระดับ 2K รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Elite พร้อม VisionBoost D7 ช่วยให้ภาพคมชัดและประหยัดพลังงาน รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรมสูงสุด 16GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS และเลนส์ Telephoto 50MP กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 5300mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W HyperCharge และชาร์จไร้สาย 50W รันระบบปฏิบัติการ Android ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS 2 ตัวเครื่องฝาหลังเป็นกระจกพร้อมกรอบโลหะ

ส่วนรุ่นรอง POCO F7 Pro จะใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Gen 3 แรม 12GB กล้องหลัง 50MP พร้อม OIS กล้องหน้า 20MP แบตเตอรี่ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W HyperCharge โดยมีสเปกอื่น ๆ เหมือนกับ POCO F7 Ultra

  • POCO F7 Pro 12GB/256GB ราคา 15,990 บาท

  • POCO F7 Pro 12GB/512GB ราคา 17,990 บาท

  • POCO F7 Ultra 12GB/256GB ราคา 21,990 บาท

  • POCO F7 Ultra 16GB/512GB ราคา 23,990 บาท

4. realme 14 Series 5G

realme 14 Series 5G

ภาพจาก : realme.com

มือถือเล่นเกมจาก realme โดยในรุ่นพื้นฐานอย่าง realme 14 5G จะมีหน้าจอ AMOLED ระดับ E-Sports ขนาด 6.67 นิ้ว FHD+ 120Hz ชิปประมวลผล Snapdragon 6 Gen 4 รองรับ 5G แรม 12GB มีฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มรวมเป็นสูงสุด 26GB ความจุ 512GB กล้อง AI OIS 50MP กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W พร้อมคุณสมบัติกันน้ำที่มาตรฐาน IP69 โดยจะมีตัวเครื่องสีเงินที่เป็นดีไซน์ Mecha พร้อมไฟ Victory Halo Light สไตล์เกมมิ่ง กับระบบระบายความร้อน Bionic Cooling System และ GT Boost ช่วยปรับความแรงสําหรับเล่นเกมด้วย AI รันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0 ส่วนรุ่นท็อป realme 14 Pro 5G จะมีดีไซน์ตัวเครื่องแบบไข่มุก โทนสีเปลี่ยนตามมุมที่แสงตกกระทบ หน้าจอแบบโค้ง 6.77 นิ้ว ใช้ชิป Dimensity 7300 Energy 5G กล้องหลัง 50MP OIS Sony IMX882 พร้อม MagicGlow Triple Flash เพื่อช่วยในการถ่ายภาพพอร์เทรต และมีคุณสมบัติกันน้ำ IP69&IP68&IP66

  • realme 14 5G 12GB/256GB ราคา 11,999 บาท

  • realme 14 5G 12GB/512GB ราคา 13,999 บาท

  • realme 14 Pro 5G 12GB/512GB ราคา 14,999 บาท

5. OPPO A5 Pro Series

OPPO A5 Pro Series

ภาพจาก : oppo.com

OPPO A5 Pro 5G โทรศัพท์มือถือรุ่นระดับกลางที่ชูจุดเด่นเรื่องความแข็งแรงทนทานของตัวเครื่อง ด้วยคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่น IP69 และการป้องกันการกระแทกเกรดทหาร พร้อมฟีเจอร์ AI LinkBoost 2.0 ที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของสัญญาณมือถือได้ดีขึ้นกว่าเดิม มีหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด HD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 6300 รองรับ 5G แรม 6GB/8GB ความจุ 128GB/256GB กล้องหลังคู่ 50MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5800mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15 ส่วนรุ่น 4G จะใช้ชิปเป็น Snapdragon 6s Gen 1

  • OPPO A5 Pro 6GB/128GB ราคา 5,999 บาท

  • OPPO A5 Pro 8GB/256GB ราคา 6,999 บาท

  • OPPO A5 Pro 5G 6GB/128GB ราคา 7,999 บาท

  • OPPO A5 Pro 5G 8GB/256GB ราคา 9,999 บาท

6. Xiaomi 15 Series

Xiaomi 15 Series

ภาพจาก : mi.com

Xiaomi 15 Series มือถือเรือธงปี 2025 จาก Xiaomi ที่ในรุ่นพื้นฐานอย่าง Xiaomi 15 จะมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ 120Hz ใช้ชิปตัวท็อปล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Elite รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 12GB ใช้งานหรือเล่นเกมได้ลื่นไหล กล้องหลัง Leica 3 เลนส์ กล้องหลัก Light Hunter 900 50MP พร้อมเลนส์ Telephoto กล้องหน้า 32MP มีคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ 5400mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W และชาร์จไร้สาย 50W รันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS 2

ส่วนตัวท็อปสุด Xiaomi 15 Ultra นอกจากจะมีหน้าจอ AMOLED ที่ขนาดใหญ่กว่าเป็น 6.73 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K และแรม 16GB แล้ว ยังมีการอัปเกรดประสิทธิภาพกล้องให้เหนือกว่ารุ่นอื่น โดยจะมาพร้อมกล้องหลัก Leica LYT-900 1" รูรับแสงขนาดใหญ่ f/1.63 สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี เก็บรายละเอียดความต่างของจุดที่สว่างและมืดได้ชัดเจน รวมทั้งเลนส์ Telephoto ที่มีความละเอียดสูงถึง 200MP 1/1.4" f/2.6 400mm ช่วยให้ถ่ายแบบซูมได้ดียิ่งขึ้น โดยมีขนาดแบตเตอรี่ 6000mAh และรองรับชาร์จไร้สาย 80W

  • Xiaomi 15 12GB/256GB ราคา 26,990 บาท

  • Xiaomi 15 12GB/512GB ราคา 29,990 บาท

  • Xiaomi 15 Ultra 16GB/512GB ราคา 42,990 บาท

  • Xiaomi 15 Ultra 16GB/1TB ราคา 46,900 บาท

7. vivo V50

vivo V50

ภาพจาก : vivo.com

มือถือ vivo รุ่นระดับกลาง มาพร้อมหน้าจอแบน ขอบโค้งเล็กน้อย 4 ด้าน AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 7 Gen 3 รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แรม 8GB/12GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลังหลัก ZEISS OIS 50MP + Ultrawide 50MP กล้องหน้า ZEISS มุมกว้าง 50MP แบตเตอรี่ BlueVolt 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W มีกันน้ำ-กันฝุ่น IP68 & IP69 และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Funtouch OS 15

  • vivo V50 8GB/256GB ราคา 14,999 บาท

  • vivo V50 12GB/256GB ราคา 15,999 บาท

  • vivo V50 12GB/512GB ราคา 17,999 บาท

8. HONOR Magic7 Pro

HONOR Magic7 Pro

ภาพจาก : honor.com

มือถือที่มาพร้อม HONOR AI ซึ่งมีหน้าจอ OLED Equal-Depth Micro-quad-Curved ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิกที่ปรับเปลี่ยนได้ 1-120Hz พร้อมฟีเจอร์ถนอมสายตา Natural Light ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 12GB ความจุ 512GB กล้อง AI HONOR Falcon Camera 3 เลนส์ 50MP + Ultra Wide 50MP + Telephoto 200MP กล้องหน้า 50MP แบตเตอรี่ 5850mAh รองรับชาร์จเร็ว HONOR SuperCharge 100W และชาร์จไร้สาย 80W รองรับทั้งการปลดล็อกด้วยการสแกนนิ้วและสแกนใบหน้า มีลำโพง HONOR Surround Sub-woofer และคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นที่ระดับ IP69 & IP68 รันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย MagicOS 9.0

  • HONOR Magic7 Pro 12GB/512GB ราคา 35,990 บาท

9. OPPO Reno13 Series 5G

OPPO Reno13 Series 5G

ภาพจาก : oppo.com

OPPO Reno13 Series 5G มีฟีเจอร์เด่นเป็น AI Livephoto กับ AI Editor ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยในการถ่ายและแต่งภาพ พร้อมทั้งคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นมาตรฐาน IP69 และ AI LinkBoost 2.0 ช่วยเพิ่มความเสถียรของสัญญาณมือถือได้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย คือ Reno13 Pro, Reno13 และ Reno13 F โดยตัวท็อปสุด OPPO Reno13 Pro 5G จะมีสเปกประกอบไปด้วย หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.83 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8350 รองรับ 5G และ Wi-Fi 6E แรม 12GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP OIS พร้อมเลนส์ Telephoto ซูมได้ 3.5x กล้องหน้า 50MP แบตเตอรี่ 5800mAh รองรับชาร์จเร็ว SUPERVOOC 80W และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15.0

  • OPPO Reno13 F 5G 12GB/256GB ราคา 12,999 บาท

  • OPPO Reno13 F 5G 12GB/512GB ราคา 14,999 บาท

  • OPPO Reno13 5G 12GB/256GB ราคา 17,999 บาท

  • OPPO Reno13 5G 12GB/512GB ราคา 19,999 บาท

  • OPPO Reno13 Pro 5G 12GB/512GB ราคา 24,999 บาท

10. POCO X7 Series

POCO X7 Series

ภาพจาก : mi.com

มือถือรุ่นระดับกลางจาก POCO โดยรุ่นพื้นฐาน POCO X7 จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบโค้ง CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 7300-Ultra รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แรม 8GB/12GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อมกันสั่น OIS กล้องหน้า 20MP แบตเตอรี่ 5110mAh รองรับชาร์จเร็วเทอร์โบชาร์จ 45W มีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 และลำโพงคู่ Dolby Atmos และรันระบบปฏิบัติการ Android ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS ส่วน POCO X7 Pro จะใช้ชิป Dimensity 8400-Ultra แรม 12GB แบตเตอรี่ 6000mAh รองรับไฮเปอร์ชาร์จ 90W

  • POCO X7 8GB/256GB ราคา 7,999 บาท

  • POCO X7 12GB/512GB ราคา 9,999 บาท

  • POCO X7 Pro 12GB/256GB ราคา 11,990 บาท

  • POCO X7 Pro 12GB/512GB ราคา 12,990 บาท

วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ

สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือนั้น นอกจากเรื่องของความชอบส่วนตัวแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ของการนำมาใช้งาน สเปกเครื่อง ราคา หน้าร้านหรือช่องทางการสั่งซื้อ ไปจนถึงวิธีการตรวจเช็กเบื้องต้น ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ต้องเช็กอะไรบ้าง

ทั้งหมดนี้ก็คือโทรศัพท์มือถือกันน้ำ IP68 และ IP69 รุ่นเด่น ๆ ที่กำลังจำหน่ายในช่วงปีนี้ หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหามือถือที่กันน้ำได้อยู่ก็น่าจะตัดสินใจเลือกกันง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะใช้มือถือกันน้ำแล้ว การระมัดระวังอย่าเผลอทำมือถือตกน้ำหรือเปียกน้ำไว้ก่อนก็น่าจะเป็นสิ่งดีที่สุดนะครับ

บทความโทรศัพท์มือถือใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : mi.com, samsung.com, vivo.com, oppo.com, honor.com, realme.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มือถือกันน้ำ 2025 ระดับ IP68/IP69 แม้ทำตกน้ำก็ไม่พัง มีรุ่นไหนบ้าง ? อัปเดตล่าสุด 18 เมษายน 2568 เวลา 17:29:58 14,975 อ่าน
TOP