แนะนำแท็บเล็ต 2025 ยี่ห้อไหนดี มีให้เลือกหลากหลายรราคา ทั้งรุ่นประหยัดไปจนถึงระดับเรือธง สำหรับใช้เพื่อความบันเทิงก็ดี หรือใช้ทำงานก็เหมาะ

สำหรับใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตสักเครื่องสำหรับไว้ใช้ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ตัดต่อ หรือทำงานด้านกราฟิก หรืออาจใช้เพื่อความบันเทิงอย่างดูหนังและเล่นเกม ด้วยจุดเด่นที่มีหน้าจอใหญ่ชัดเต็มตามากกว่าโทรศัพท์มือถือ ใช้งานได้สะดวก อยากรู้ว่ามีรุ่นไหนยี่ห้อใดน่าสนใจบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมแท็บเล็ต 2025 รุ่นใหม่มาแนะนำให้แล้ว จะมีรุ่นไหนบ้างขอชวนเพื่อน ๆ ตามไปดูกันเลย
แท็บเล็ตน่าใช้ 2025 รุ่นไหนดี
1. Samsung Galaxy Tab S10 FE Series

ภาพจาก : samsung.com
แท็บเล็ต Samsung รุ่นรองเรือธง โดยในรุ่นพื้นฐานอย่าง Tab S10 FE จะมีสเปกประกอบไปด้วยหน้าจอขนาด 10.9 นิ้ว ความละเอียด WUXGA+ รองรับ 90Hz ใช้ชิปประมวลผล Exynos 1580 รองรับ Wi-Fi 6 แรม 8GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 13MP กล้องหน้า 12MP แบตเตอรี่ 8000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W มีปากกา S-Pen ให้มาในกล่อง พร้อมการรองรับฟีเจอร์ Circle to Search (วงเพื่อค้นหา) และคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นที่มาตรฐาน IP68 รันระบบปฏิบัติการ Android ส่วนตัวท็อป Tab S10 FE+ จะมีหน้าจอขนาด 13.1 นิ้ว แรม 12GB ความจุ 256GB และแบตเตอรี่ 10090mAh
- Samsung Galaxy Tab S10 FE Wi-Fi 8GB/128GB ราคา 17,900 บาท
- Samsung Galaxy Tab S10 FE 5G 8GB/128GB ราคา 20,900 บาท
- Samsung Galaxy Tab S10 FE+ Wi-Fi 12GB/256GB ราคา 26,900 บาท
- Samsung Galaxy Tab S10 FE+ 5G 12GB/256GB ราคา 29,900 บาท
2. Lenovo Legion Tab Gen 3

ภาพจาก : lenovo.com
แท็บเล็ตเกมมิ่งจาก Lenovo ที่มาพร้อมหน้าจอ PureSight ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียด 2.5K รองรับ 165Hz และ HDR10 ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 3 รองรับ Wi-Fi 7 แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลังคู่ 13MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ 6550mAh รองรับชาร์จเร็ว 68W มีระบบระบายความร้อน Legion ColdFront ลำโพงคู่ JBL ระบบเสียง Dolby Atmos รวมถึงฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกม Legion Space และ Game Assistant และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Lenovo ZUI 16.1 รองรับการอัปเดตจนถึง Android 17 และอัปเดตความปลอดภัย 4 ปี
- Lenovo Legion Tab Gen 3 12GB/256GB ราคา 19,990 บาท
3. Lenovo Idea Tab Pro

ภาพจาก : lenovo.com
แท็บเล็ต Lenovo รุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 12.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 3K รองรับ 144Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8300 รองรับ WiFi 6E แรม 8GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 13MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ 10200mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W ลำโพง JBL 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Lenovo ZUI 16 รองรับการอัปเดตจนถึง Android 16 และอัปเดตด้านความปลอดภัย 4 ปี โดยจะมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Lenovo Tab Pen Plus และ 2-in-1 Keyboard Pack ให้มาพร้อมเครื่องด้วย
- Lenovo Idea Tab Pro 8GB/128GB ราคา 11,190 บาท
4. HUAWEI MatePad Pro 13.2-inch

ภาพจาก : huawei.com
หน้าจอจอ Flexible OLED PaperMatte ขนาด 13.2 นิ้ว ความละเอียด 2880 × 1920 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล Kirin T92 แรม 12GB ความจุ 512GB กล้องหลังคู่ 50MP กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ 10100mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W และรันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4.3 รองรับการใช้งานร่วมกับปากกาสไตลัส (ต้องซื้อแยก) พร้อมระบบกระจายความร้อน 3 มิติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ 30% และฟีเจอร์อื่น ๆ อย่าง PC-level WPS Office, Huawei Notes, GoPaint App และ NearLink โดยมี HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ให้มาในกล่องด้วย
- HUAWEI MatePad Pro 13.2-inch 12GB+512GB ราคา 34,990 บาท
5. iPad Air 7

ภาพจาก : apple.com
iPad Air 7 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2025 ของ Apple ที่มีการอัปเกรดชิปประมวลผลจากรุ่นก่อนหน้ามาเป็น Apple M3 ที่แรงขึ้น รวมถึงการรองรับ AI อัจฉริยะอย่าง Apple Intelligence เช่นเดียวกับ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ส่วนสเปกอื่น ๆ ก็ประกอบไปด้วย หน้าจอ Liquid Retina 11/13 นิ้ว 264 ppi กล้องหลัง 12MP กล้องหน้า 12MP รองรับ Wi‑Fi 6E (และ 5G ในรุ่น Cellular) มีลำโพงสเตอริโอในแนวนอน พอร์ต USB-C พร้อมที่ชาร์จ 20W แบตเตอรี่ท่องเว็บหรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง และรันระบบปฏิบัติการ iPadOS 18
-
iPad Air 7 11″ Wi-Fi ราคาเริ่มต้น 21,900 บาท
-
iPad Air 7 11″ Cellular ราคาเริ่มต้น 27,900 บาท
-
iPad Air 7 13″ Wi-Fi ราคาเริ่มต้น 28,900 บาท
-
iPad Air 7 13″ Cellular ราคาเริ่มต้น 34,900 บาท
6. iPad Gen 11

ภาพจาก : apple.com
iPad Gen 11 อีกหนึ่งแท็บเล็ตรุ่นใหม่ของ Apple ที่นอกจากจะอัปเกรดชิปประมวลผลจากรุ่นก่อนหน้ามาเป็น A16 แล้ว ยังเพิ่มความจุในรุ่นเริ่มต้นเป็น 128GB โดยมีราคาที่ถูกลงกว่าเดิม แต่ยังไม่รองรับ Apple Intelligence โดยจะมาพร้อมหน้าจอ Liquid Retina 11 นิ้ว 264 ppi กล้องหลัง 12MP กล้องหน้า 12MP รองรับ Wi‑Fi 6 (และ 5G ในรุ่น Cellular) มีลำโพงสเตอริโอในแนวนอน พอร์ต USB-C พร้อมที่ชาร์จ 20W แบตเตอรี่ท่องเว็บหรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง และรันระบบปฏิบัติการ iPadOS 18
-
iPad Gen 11 Wi-Fi 128GB ราคา 12,900 บาท
-
iPad Gen 11 Wi-Fi 256GB ราคา 16,900 บาท
-
iPad Gen 11 Wi-Fi 512GB ราคา 23,900 บาท
-
iPad Gen 11 Cellular 128GB ราคา 18,900 บาท
-
iPad Gen 11 Cellular 256GB ราคา 22,900 บาท
-
iPad Gen 11 Cellular 512GB ราคา 29,900 บาท
7. Xiaomi Pad 7 Series

ภาพจาก : mi.com
แท็บเล็ต Xiaomi สเปกระดับกลาง ที่มีหน้าจอขนาด 11.2 นิ้ว ความละเอียดสูงระดับ 3.2K รองรับ 144Hz HDR ความสว่างสูงสุด 800nits ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 7+ Gen 3 รองรับ Wi-Fi 6E มีโหมด Workstation บูสต์ประสิทธิภาพการทำงานให้เสมือนใช้เดสก์ท็อป กล้องหลัง 13MP กล้องหน้า 8MP มีลำโพง 4 ตัว รองรับ Dolby Vision และ Dolby Atmos แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8850mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W ชาร์จได้ 40% ใน 30 นาที พร้อม Xiaomi HyperAI ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 (Android) ส่วนตัวท็อปอย่าง Xiaomi Pad 7 Pro จะใช้ชิป Snapdragon 8s Gen 3 รองรับ Wi-Fi 7 กล้องหลัง 50MP กล้องหน้า 32MP และรองรับชาร์จเร็ว 67W ชาร์จเต็ม 100% ใน 79 นาที
-
Xiaomi Pad 7 8GB/128GB ราคา 9,990 บาท
-
Xiaomi Pad 7 8GB/256GB ราคา 12,490 บาท
-
Xiaomi Pad 7 Pro 8GB/256GB ราคา 14,990 บาท
-
Xiaomi Pad 7 Pro 12GB/512GB ราคา 17,990 บาท
8. OPPO Pad 3 Matte Display Edition

ภาพจาก : oppo.com
แท็บเล็ต OPPO ดีไซน์บางเฉียบที่มาพร้อมหน้าจอแมตต์ป้องกันเงาสะท้อนขนาด 11.6 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 2000 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 144Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8350 รองรับ Wi-Fi 6 แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 8MP รองรับ Smart Keyboard และ OPPO Pencil 2 (ต้องซื้อแยก) มีฟีเจอร์ AI Intelligent Document ช่วยสรุปเอกสาร และ O+ Connect สำหรับส่งไฟล์ไปยังอุปกรณ์ iOS รวมทั้ง Boundless View สำหรับแบ่งหน้าจอเป็น 2 หรือ 3 ส่วน และทำงานหลายอย่างพร้อมกัน แบตเตอรี่ 9520mAh รันระบบปฏิบัติการ Android ครอบทับด้วย ColorOS 15.0
-
OPPO Pad 3 8GB/256GB ราคา 14,999 บาท
9. Infinix Xpad

ภาพจาก : infinixmobility.com
แท็บเล็ตราคาหลักพันจาก Infinix ที่มีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 90Hz ใช้ชิปประมวลผล Helio G99 รองรับ 4G LTE กล้องหน้า 8MP แรม 8GB ความจุ 256GB มี 4 ลำโพงระบบเสียงสเตอริโอ แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W ชาร์จได้ 50% ในเวลา 40 นาที รันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย XOS 14 พร้อมรับรองการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัย 2 ปี และฟีเจอร์ Folax ผู้ช่วยเสียงพร้อม ChatGPT
-
Infinix Xpad 8GB/256GB ราคา 5,999 บาท
10. HUAWEI MatePad 12 X

ภาพจาก : huawei.com
แท็บเล็ต HUAWEI ที่มาพร้อมคีย์บอร์ด HUAWEI Smart Magnetic ในกล่อง ใช้งานในโหมด PC ได้ และรองรับปากกา M-Pencil (แต่ต้องซื้อแยก) มีหน้าจอ PaperMatte สว่างพิเศษขนาด 12 นิ้ว ความละเอียด 2.8K รองรับ 144Hz ใช้ชิปประมวลผล Kirin T90A แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลังคู่ 13MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ 10100mAh ตัวเครื่องบาง 5.9 มม. น้ำหนักเพียง 555 กรัม และรันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4.2
-
HUAWEI MatePad 12 X 12GB/256GB 19,990 บาท
วิธีเลือกซื้อแท็บเล็ต
ในการจะเลือกซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานสักเครื่องนั้นมีสิ่งที่ควรพิจารณาหลายอย่างด้วยกัน เพื่อให้ได้รุ่นและยี่ห้อที่ดี มีคุณภาพ เหมาะกับลักษณะการใช้งาน โดยมีหลักวิธีเลือกซื้อดังต่อไปนี้
1. ยี่ห้อ
บางคนอาจจะมียี่ห้อแท็บเล็ตในใจที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็สามารถเจาะจงเลือกซื้อรุ่นของแบรนด์นั้น ๆ ได้เลย หรือถ้าใครยังไม่มีอาจพิจารณาจากชื่อเสียงของแต่ละแบรนด์ รวมถึงการรับประกันและบริการหลังการขายร่วมด้วย หรือถ้าคุณเป็นผู้ใช้ iOS ก็คงต้องเลือกซื้อแต่เฉพาะ iPad เท่านั้น
2. สเปก
ให้พิจารณาดูว่าต้องการซื้อมาใช้งานอะไรบ้าง ถ้าใช้งานทั่วไปก็อาจไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นแพงสเปกแรงมาก โดยเลือกรุ่นประหยัดราคาหลักพันก็เพียงพอแล้ว แต่หากจะเน้นเล่นเกมหรือทำงานด้านกราฟิกก็อาจเลือกรุ่นที่มีซีพียูแรง ๆ แรมเยอะ ๆ แบตเตอรี่อึด ๆ หน่อย นอกจากนี้สเปกอื่น ๆ ก็เลือกตามที่ชอบเลย เช่น หน้าจอใหญ่ กล้องหน้า-กล้องหลัง รวมทั้งฟีเจอร์เสริมอย่างการสแกนลายนิ้วมือ-ใบหน้า รองรับปากกาสไตลัส และลูกเล่นอื่น ๆ
3. ดีไซน์
ถัดจากสเปกก็มาดูที่ดีไซน์หน้าตาตัวเครื่องกันต่อว่าสวยถูกใจแค่ไหน ขนาดและรูปทรงตัวเครื่องเป็นแบบที่ชอบหรือไม่ รวมทั้งสีสันตัวเครื่องที่แต่ละรุ่นก็จะมีให้เลือกแตกต่างกันไป แต่หากเป็นรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่จะทำให้ตัวเครื่องใหญ่ตามไปด้วย ซึ่งอาจทำให้พกพาได้ลำบากกว่ารุ่นที่มีหน้าจอเล็กกะทัดรัด
4. ราคา
แท็บเล็ตรุ่นที่สเปกสูง ๆ ก็มักจะมีราคาที่สูงตามไปด้วย ซึ่งถ้าหากคุณมีงบที่ค่อนข้างจำกัดก็คงเลือกรุ่นที่มีสเปกและคุณสมบัติเพียงพอกับลักษณะการใช้งาน หรืออาจตัดสินใจเพิ่มเงินอีกหน่อยถ้ารุ่นที่มีสเปกตามต้องการแพงเกินกว่างบที่ตั้งไว้แต่ยังอยู่ในระดับที่รับไหว นอกจากนี้ยังสามารถหาซื้อเครื่องมือสองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้
อย่างไรก็ตาม ราคาของแท็บเล็ตที่จำหน่ายจริงอาจแตกต่างจากราคาที่ได้ระบุไว้อยู่บ้าง โดยขึ้นอยู่กับการปรับราคาของร้านตัวแทนจำหน่ายและโปรโมชั่นในช่วงต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ อย่าลืมตรวจสอบราคาอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อด้วยนะครับ
บทความเกี่ยวกับแท็บเล็ตเรื่องอื่น ๆ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : huawei.com, mi.com, honor.com, apple.com, oppo.com, infinixmobility.com, lenovo.com