รวมโทรศัพท์มือถือเรือธง 2025 รุ่นท็อปสเปกแรงของแต่ละยี่ห้อ มีรุ่นไหนและราคาเท่าไรบ้าง สามารถเช็กได้ที่นี่เลย
มือถือเรือธงนั้นนับว่าเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นที่มีความโดดเด่นและมักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีสเปกแรงในระดับท็อป ๆ ของตลาด ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของมือถือเหล่านี้มักจะมีโอกาสได้สัมผัสกับฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก่อนใคร หากเพื่อน ๆ คนไหนอยากรู้ว่ามือถือเรือธงของแต่ละยี่ห้อที่กำลังจำหน่ายในไทยปี 2025 จะมีรุ่นไหนบ้างนั้น วันนี้เราก็ได้รวบรวมมาแนะนำให้แล้ว
มือถือเรือธง คืออะไร ?
มือถือเรือธง คือ โทรศัพท์มือถือที่มีสเปกแรงเป็นระดับท็อป ๆ ของตลาดมือถือขณะนั้น หรืออาจจะเป็นรุ่นที่มีสเปกสูงสุดและแพงที่สุดของแบรนด์ ซึ่งมือถือเรือธงในปี 2025 หลัก ๆ มักจะมาพร้อมชิปประมวลผลตัวท็อปอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 หรือชิปที่มีความแรงอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ก็มักจะมีหน้าจอที่รองรับ Refresh Rate 120Hz ขึ้นไป โดยมีราคาเริ่มต้นสูงกว่า 25,000 บาท ส่วนสเปกอื่น ๆ จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นว่าเน้นสเปกด้านใดเป็นพิเศษ
มือถือเรือธง 2025 ยี่ห้อไหนดี
1. Samsung Galaxy S25 Series
Samsung Galaxy S25 Series โทรศัพท์มือถือเรือธงรุ่นใหม่ปี 2025 ที่มีการอัปเดตสเปกด้านต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ProVisual Engine ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพ-วิดีโอและการตัดต่อให้ดียิ่งขึ้น รวมถึง Galaxy AI ที่สามารถทำงานได้ฉลาดและรวดเร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะตัวท็อป Galaxy S25 Ultra ที่ถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ให้ขอบเครื่องมีความโค้งมนมากขึ้นเพื่อให้จับถือได้สะดวกกว่าเดิม มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าคือ 6.9 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 3 แรม 12GB เช่นเดียวกับรุ่นรอง ความจุเลือกได้สูงสุด 1TB กล้องหลัง 4 เลนส์ มีความละเอียดสูงถึง 200MP OIS พร้อมเลนส์ Periscope ที่รองรับ Optical Zoom 5x และอัปเกรดความละเอียดกล้อง Ultrawide เป็น 50MP แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W และชาร์จไร้สาย โดยตัวเครื่องจะใช้วัสดุเป็นไทเทเนียม
-
Samsung Galaxy S25 12GB/256GB ราคา 29,900 บาท
-
Samsung Galaxy S25 12GB/512GB ราคา 34,900 บาท
-
Samsung Galaxy S25+ 12GB/256GB ราคา 36,900 บาท
-
Samsung Galaxy S25+ 12GB/512GB ราคา 41,900 บาท
-
Samsung Galaxy S25 Ultra 12GB/256GB ราคา 46,900 บาท
-
Samsung Galaxy S25 Ultra 12GB/512GB ราคา 52,900 บาท
-
Samsung Galaxy S25 Ultra 12GB/1TB ราคา 62,900 บาท
2. iPhone 16 Series
iPhone 16 Series ที่แบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย โดยตัวท็อปอย่างรุ่น Pro และ Pro Max จะใช้ชิปประมวลผล A18 Pro หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.3 และ 6.9 นิ้ว รองรับ ProMotion 120Hz มีกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP ทั้งกล้องหลังและ Ultrawide บวกกับเลนส์ Telephoto 5x 12MP ที่รองรับ Optical Zoom 5x และ Digital Zoom 25x พร้อมทั้งการเพิ่มปุ่ม Camera Control ด้านข้างเครื่อง ซึ่งจะทำงานคล้ายกับปุ่มชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป สามารถแยกแรงกดได้หลายระดับเพื่อใช้ในการโฟกัสและถ่ายภาพ รวมทั้งยังรองรับการสัมผัสแล้วลากเพื่อใช้ปรับตั้งค่าต่าง ๆ ของกล้องอีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะอย่าง Apple Intelligence ส่วน iPhone 16 รุ่นพื้นฐาน และรุ่น Plus จะใช้ชิปประมวลผล A18 หน้าจอขนาด 6.1 และ 6.7 นิ้ว มีกล้องหลังคู่ 48MP ที่ปรับมาใช้การวางเลนส์แบบแนวตั้ง พร้อมทั้งเพิ่มปุ่มแอ็คชั่นด้านข้างเครื่องให้ใช้งานได้เหมือนกับรุ่น Pro รวมทั้งมี Camera Control และรองรับ Apple Intelligence เช่นเดียวกับรุ่น Pro
- iPhone 16 128GB ราคา 29,900 บาท
- iPhone 16 256GB ราคา 33,900 บาท
- iPhone 16 512GB ราคา 41,900 บาท
- iPhone 16 Plus 128GB ราคา 34,900 บาท
- iPhone 16 Plus 256GB ราคา 38,900 บาท
- iPhone 16 Plus 512GB ราคา 46,900 บาท
- iPhone 16 Pro 128GB ราคา 39,900 บาท
- iPhone 16 Pro 256GB ราคา 43,900 บาท
- iPhone 16 Pro 512GB ราคา 51,900 บาท
- iPhone 16 Pro 1TB ราคา 59,900 บาท
- iPhone 16 Pro Max 256GB ราคา 48,900 บาท
- iPhone 16 Pro Max 512GB ราคา 56,900 บาท
- iPhone 16 Pro Max 1TB ราคา 64,900 บาท
3. vivo X200 Series
vivo X200 Series มือถือเรือธงจาก vivo ที่ชูจุดเด่นเป็นกล้อง ZEISS โดยตัวท็อป vivo X200 Pro จะได้กล้องหลังเป็น ZEISS True Color 3 เลนส์ 50MP พร้อมเลนส์ ZEISS APO Telephoto 200MP กล้องหน้า 32MP มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 9400 รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 16GB มีฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มอีก 16GB ความจุ 512GB แบตเตอรี่ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W FlashCharge และชาร์จไร้สาย 30W มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP68 & IP69 และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Funtouch OS 15 ส่วนรุ่นรอง vivo X200 จะมีหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว กล้องหลัง 50MP ทั้ง 3 เลนส์ และแบตเตอรี่ 5800mAh
- vivo X200 12GB/256GB ราคา 29,999 บาท
- vivo X200 Pro 16GB/512GB ราคา 39,999 บาท
4. OPPO Find X8 Series
OPPO Find X8 Series มือถือเรือธง OPPO ที่มีสเปกประกอบไปด้วย หน้าจอ AMOLED 6.59 นิ้ว ความละเอียด 2760 × 1256 พิกเซล รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 9400 รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรมเลือกได้สูงสุด 16GB ความจุสูงสุด 1TB กล้องหลังมี 3 เลนส์ 50MP OIS พร้อมเลนส์ Telephoto ที่รองรับ 3x Optical Zoom กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 5630mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W ชาร์จไร้สาย 50W และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15.0 โดยจะมาพร้อม OPPO AI ตัวช่วยอัจฉริยะทั้งด้านการถ่ายภาพและอื่น ๆ ส่วน OPPO Find X8 Pro จะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าคือ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2780 × 1264 พิกเซล พร้อมทั้งมีกล้อง 4 เลนส์ โดยจะเพิ่มเลนส์ Telephoto อีกตัว รองรับ 6x Optical Zoom และ Quick Button ปุ่มลัดสำหรับใช้ในการกดถ่ายภาพ และขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นเป็น 5910mAh ส่วนชิปประมวลผลและสเปกอื่น ๆ เหมือนกับของรุ่น Find X8
- OPPO Find X8 12GB/256GB ราคา 29,999 บาท
- OPPO Find X8 16GB/512GB ราคา 33,999 บาท
- OPPO Find X8 Pro 16GB/512GB ราคา 39,999 บาท
5. realme GT 7 Pro
มือถือรุ่นท็อปสุดของ realme มาพร้อมชิปประมวลผลเรือธงใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Elite โดยมีหน้าจอแสดงผล RealWorld Eco ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5k รองรับ 120Hz แรม 12GB สามารถขยายเพิ่มด้วย Dynamic RAM ได้สูงสุด 28GB ความจุ 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อม AI Ultra-clear Snap ที่มีโหมดถ่ายภาพ AI Snap และโหมดถ่ายภาพใต้น้ำ กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6500mAh รองรับชาร์จเร็ว Ultra Charge 120W มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP69 ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานสูงสุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือ Ultrasonic ที่สามารถปลดล็อกขณะอยู่ใต้น้ำได้ โดยปลดล็อกในเวลา 0.1 วินาที รองรับ IR Control 360° NFC นอกจากนี้ยังมี NEXT AI ด้วยฟีเจอร์ AI Sketch to Image สามารถสร้างภาพที่สมบูรณ์ได้จากการร่างภาพลายเส้น
- realme GT 7 Pro 12GB/512GB ราคา 29,999 บาท
6. Sony Xperia 1 VI
มือถือเรือธง Sony ที่มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ FHD+ HDR รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Gen 3 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลัง ZEISS 3 เลนส์ 52MP รองรับ Hybrid Zoom 21.3x พร้อมระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ กล้องหน้า 12MP มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP68 มาพร้อมช่องหูฟัง 3.5 มม. แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว ชาร์จไร้สาย Qi และการแชร์แบตเตอรี่ และรันระบบปฏิบัติการ Android 14
-
ยังไม่ประกาศราคาไทย
7. HUAWEI Pura 70 Series
มือถือกล้องเทพสเปกเรือธงจาก HUAWEI ที่มีแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย โดยตัวท็อปสุด HUAWEI Pura 70 Ultra จะมาพร้อมหน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 2844 × 1260 พิกเซล รองรับอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิกสูง 1-120 Hz ใช้ชิปประมวลผล Kirin 9010 แรม 12GB ความจุ 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP OIS รองรับ Digital Zoom 100x และ Optical Zoom 3.5x กล้องหน้า 13MP แบตเตอรี่ใหญ่ 5200mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge สูงสุด 100W และรันระบบปฏิบัติการ EMUI 14.2
-
ยังไม่ประกาศราคาไทย
8. OnePlus 12R
มือถือสเปกเรือธงจาก OnePlus ที่มีหน้าจอแสดงผล AMOLED LTPO 120 Hz ProXDR รุ่นที่ 5 ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2780x1264 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 16GB LPDDR5X ความจุ 256GB UFS 3.1 กล้องหลัง 3 เลนส์ SONY IMX890 50MP กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ 5500mAh รองรับชาร์จเร็วถึง 100W SUPERVOOC ชาร์จเต็ม 1-100% ใน 26 นาที พร้อมระบบระบายความร้อน Dual Cryo-velocity VC และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย OxygenOS 14.0
-
ราคา 26,999 บาท
9. HONOR Magic6 Pro
มือถือกล้องเทพสเปกเรือธงจาก HONOR ที่มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 1-120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 3 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุ 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ กล้องหลัก 50MP OIS + Ultrawide 50MP และ Periscope Telephoto 180MP รองรับ 2.5x Optical Zoom, 100x Digital Zoom, OIS ส่วนกล้องหน้า 50MP แบตเตอรี่ 5600mAh รองรับชาร์จเร็ว HONOR 80W SuperCharge ชาร์จไร้สาย 66W มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP68 และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย MagicOS 8.0
-
ราคา 34,990 บาท
10. Xiaomi 14 Series
Xiaomi 14 Series มือถือเรือธงจาก Xiaomi ที่จะแบ่งเป็น 2 รุ่น โดยในรุ่นรองอย่าง Xiaomi 14 จะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ Refresh Rate แบบไดนามิก 1-120Hz ใช้ชิปตัวแรงล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 รองรับ 5G แรม 12GB ทำให้ใช้งานหรือเล่นเกมได้ลื่นไหล ความจุ 512GB กล้องหลัง LEICA VARIO-SUMMILUX 3 เลนส์ กล้องหลัก Light Fusion 900 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.31'' กล้องหน้า 32MP มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น มาตรฐาน IP68 แบตเตอรี่ 4610mAh ชาร์จเร็ว 90W ชาร์จเต็มใน 31 นาที ชาร์จไร้สาย 50W และรัน Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS ส่วนรุ่นท็อป Xiaomi 14 Ultra จะมีสเปกหลายอย่างที่สูงกว่า ประกอบไปด้วย หน้าจอ All Around Liquid Display AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ แรม 16GB ช่วยให้เปิดใช้งานหลายแอปฯ ได้ไม่หน่วง กล้องหลัก LYT-900 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว พร้อมเลนส์ Periscope แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 90W ชาร์จเต็มใน 33 นาที ชาร์จไร้สาย 80W
- Xiaomi 14 ราคา 29,990 บาท
- Xiaomi 14 Ultra ราคา 40,990 บาท
วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ
สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือนั้น นอกจากเรื่องของความชอบส่วนตัวแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ของการนำมาใช้งาน สเปกเครื่อง ราคา หน้าร้านหรือช่องทางการสั่งซื้อ ไปจนถึงวิธีการตรวจเช็กเบื้องต้น ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ต้องเช็กอะไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม ราคาของโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นที่ได้ระบุไว้นั้นอาจแตกต่างไปจากราคาที่จำหน่ายจริงอยู่บ้าง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการปรับราคาและการจัดโปรโมชั่นลดราคาในช่วงต่าง ๆ ของร้านตัวแทนจำหน่าย เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เช็กราคากันอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อด้วยนะครับ
บทความโทรศัพท์มือถือใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : sony.co.th, vivo.com, honor.com, huawei.com, mi.com, samsung.com, oneplus.com, apple.com, realme.com, oppo.com