โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 12,000 บาท ปี 2025 มีรุ่นไหนบ้างมาดูกัน

Samsung Galaxy A36 5G โทรศัพท์มือถือระดับกลางซีรีส์ A รุ่นปี 2025 ที่เพิ่มการรองรับฟีเจอร์ AI อย่าง Awesome Intelligence เข้ามา โดยจะมีความสามารถต่าง ๆ เช่น Circle to Search และการลบวัตถุ สำหรับด้านสเปกจะมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz สามารถแสดงภาพได้ลื่นไหล ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 6 Gen 3 รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แรม 8GB ความจุ 128GB มีกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัง 50MP พร้อมกันสั่น OIS + Ultrawide 8MP + Macro 5MP กล้องหน้า 12MP คุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นมาตรฐาน IP67 แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย One UI 7 โดยจะได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการและความปลอดภัยเป็นเวลา 6 ปี

• Samsung Galaxy A36 5G 8GB/128GB ราคา 11,999 บาท

Samsung Galaxy A26 5G จะมีสเปกต่าง ๆ ที่ถูกปรับลดลงมาจาก Galaxy A36 5G โดยมีหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Exynos 1380 รองรับ 5G และ Wi-Fi 5 แรม 8GB ความจุ 256GB มีกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัง 50MP พร้อมกันสั่น OIS + Ultrawide 8MP + Macro 2MP กล้องหน้า 13MP คุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นมาตรฐาน IP67 แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย One UI 7 นอกจากนี้ก็จะรองรับฟีเจอร์ AI อย่าง Awesome Intelligence เช่นกัน

• Samsung Galaxy A26 5G 8GB/256GB ราคา 10,999 บาท

Redmi Note 14 Pro 5G โทรศัพท์มือถือของตระกูล Redmi จาก Xiaomi ที่มีสเปกประกอบไปด้วย หน้าจอ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 7300-Ultra รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงถึง 200MP พร้อมกันสั่น OIS ช่วยให้ถ่ายภาพได้ละเอียดและนิ่ง กล้องหน้า 20MP แบตเตอรี่ 5110mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W และมีคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นที่ระดับ IP68 นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนเทคโนโลยีแกรไฟต์อีกด้วย และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS

• Redmi Note 14 Pro 5G 12GB/256GB ราคา 11,990 บาท

มือถือรุ่นระดับกลางจาก POCO มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบโค้ง CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8400-Ultra รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แรม 12GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อมกันสั่น OIS กล้องหน้า 20MP แบตเตอรี่ 6000mAh รองรับชาร์จเร็วไฮเปอร์ชาร์จ 90W มีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 และลำโพงคู่ Dolby Atmos รันระบบปฏิบัติการ Android ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS

• POCO X7 Pro 12GB/256GB ราคา 11,990 บาท

• POCO X7 Pro 12GB/512GB ราคา 12,990 บาท

มือถือ HONOR ที่มีจุดเด่นเรื่องความทนทาน โดยจะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 6 Gen 1 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลังคู่ AI ถ่ายภาพคมชัด 108MP OIS กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6600mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W มีคุณสมบัติกันน้ำระดับ IP65M กันกระแทกรอบด้าน 360° และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย MagicOS 8.0 ส่วนรุ่นรอง HONOR X9c Smart จะมีหน้าจอ LCD 6.8 นิ้ว ใช้ชิป Dimensity 7025-Ultra แบตเตอรี่ 5800mAh ชาร์จเร็ว 35W

• HONOR X9c 12GB/256GB ราคา 10,990 บาท

มือถือ realme สเปกระดับกลาง ที่มาพร้อม GT Mode ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับ 90fps ระบบระบายความร้อน Stainless Steel VC โดยจะมีจอแสดงผลสำหรับอีสปอร์ต OLED 120Hz ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 7300 Energy รองรับ 5G แรม 12GB มีฟีเจอร์ Dynamic RAM ขยายเพิ่มสูงสุดเป็น 26GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP Sony LYT-600 OIS กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว Ultra Charge 80W และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0

• realme 13+ 5G 12GB/256GB ราคา 11,999 บาท
• realme 13+ 5G 12GB/512GB ราคา 13,999 บาท

มือถือ vivo รุ่นสเปกระดับกลางที่มีราคาเริ่มต้นไม่เกิน 10,000 บาท โดยมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 รองรับ 5G แรม 8GB/12GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลังคู่ 50MP + 8MP พร้อม AI แสงไฟออร่า กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน 4 ปี มีคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่น IP64 และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14

• vivo Y200 5G 8GB/256GB ราคา 9,999 บาท

• vivo Y200 5G 12GB/512GB ราคา 11,999 บาท

มือถือน้องรุ่นเล็กจาก OPPO Reno12 Series มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 6300 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุสูงสุด 256GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP OIS กล้องหน้า 32MP มีฟีเจอร์ AI Portrait สำหรับช่วยในการแต่งภาพพอร์เทรต และ AI LinkBoost ที่จะช่วยให้การจับสัญญาณมือถือทำได้ดีขึ้น แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว SUPERVOOC 45W และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย ColorOS 14.0

• OPPO Reno12 F 5G ราคา 11,999 บาท

มือถือสเปกระดับกลางในราคาเริ่มต้นหลักพันจาก Nothing ที่มีจุดเด่นคือสามารถปรับแต่งเองได้หลากหลาย ทั้งฝาหลังแบบถอดเปลี่ยนได้ รวมทั้งสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพิ่มเติม โดยมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว รองรับ 120Hz ความสว่างสูงสุด 2000nits ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 7300 รองรับ 5G แรม 8GB มีฟีเจอร์ RAM Booster เพิ่มอีก 8GB รวมเป็น 16GB ความจุ 128GB/256GB ใส่ microSD เพิ่มได้สูงสุด 2TB กล้องหลัง Sony 50MP กล้องหน้า 16MP พร้อม Ultra XDR และ AI Vivid Mode แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W สามารถเล่นวิดีโอได้นานสุด 23 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Nothing OS 2.6

• CMF Phone 1 128GB ราคา 9,499 บาท
• CMF Phone 1 256GB ราคา 10,699 บาท

มือถือ vivo สเปกระดับกลาง ราคาหมื่นต้น ๆ ที่มาพร้อมหน้าจอโค้ง 3D AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 6 Gen 1 รองรับ 5G แรม 8GB มีฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มได้อีก 8GB ความจุ 256GB เพิ่มความจุด้วย microSD ได้สูงสุด 1TB กล้องหลังคู่ 50MP Sony IMX882 พร้อมออร่าพอร์เทรตแบบอัปเกรด ให้แสงออร่าในการถ่ายภาพพอร์เทรตได้ดีขึ้น กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 5500mAh มีอายุการใช้งาน 4 ปี รองรับชาร์จเร็ว 44W มีคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่น IP64 และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14

• vivo V30e 5G 8GB/256GB ราคา 10,999 บาท