หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รุ่นใหม่น่าสนใจ พร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน

แนะนำหูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 หูฟังไร้สายแบบ True Wireless พร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนจากยี่ห้อต่าง ๆ สำหรับใช้กับโทรศัพท์มือถือ

หูฟังบลูทูธ

ในยุคที่คนใช้โทรศัพท์มือถือเริ่มหันมาใช้หูฟังบลูทูธหรือหูฟังไร้สายแบบ True Wireless กันมากขึ้น เนื่องจากมือถือหลาย ๆ รุ่นในปัจจุบันโดยเฉพาะมือถือเรือธง มักจะไม่มีช่องเสียบหูฟังมาให้ และหูฟังบลูทูธก็ยังมีข้อดีคือ ไม่มีสายเกะกะ ทำให้สามารถพกพาและหยิบมาใช้งานได้สะดวก ในวันนี้เราก็ได้คัดเลือกหูฟังบลูทูธรุ่นเด่น ๆ ที่น่าสนใจในปี 2025 ของยี่ห้อต่าง ๆ มาแนะนำ มีให้เลือกตั้งแต่ราคาประหยัดจนถึงระดับพรีเมียม ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้างนั้น ขอชวนเพื่อน ๆ ตามไปดูกันเลย

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2025

1. Samsung Galaxy Buds3 Pro

Galaxy Buds3 Pro คือหนึ่งในตัวท็อปของหูฟังไร้สายในปี 2025 ออกแบบมาสำหรับสายฟังเสียงจริงจัง ด้วย Ultimate Hi-Fi 24bit/96kHz, Speaker 2 ตัว และระบบเสียง 360 องศา ให้ประสบการณ์ฟังเพลงและดูหนังสมจริงทุกมิติ เสียงใส คมชัด เก็บรายละเอียดได้หมดตั้งแต่เสียงเบสลึกไปจนถึงเสียงเครื่องดนตรีจาง ๆ ในแบ็กกราวนด์ เรียกได้ว่าเหมาะกับสายหูเทพโดยเฉพาะ

โดดเด่นด้วย Adaptive ANC สามารถปรับระดับได้ถึง 5 ระดับ พร้อม Ambient Mode ให้คุณเลือกเปิดรับเสียงรอบข้าง หรือปรับให้อัตโนมัติเมื่อมีเสียงไซเรนหรือมีคนพูดใกล้ตัว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในชีวิตประจำวัน ด้านดีไซน์ก็พัฒนาใหม่หมด ด้วย Ear Tips ที่นุ่ม ใส่สบายพอดีหู ใส่ได้นานไม่อึดอัด พร้อมก้านติดไมโครโฟน 3 ตัว ช่วยให้เสียงสนทนาคมชัด แม้จะอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงรบกวน เช่น คาเฟ่หรือสถานีรถไฟ และมีไฟบริเวณก้าน มองเห็นเด่นชัด ใส่วิ่ง/เดินตอนกลางคืนได้ปลอดภัยมากขึ้น

  • Samsung Galaxy Buds3 Pro ราคา 7,490 บาท

Samsung Galaxy Buds3 Pro

ภาพจาก : samsung.com

2. OPPO Enco Buds3 Pro

หูฟังบลูทูธ OPPO ราคาประหยัดรุ่นนี้จะมีไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 12.4 มม. มาพร้อมฟีเจอร์ Enco Master และตัวปรับเสียงอีควอไลเซอร์แบบปรับแต่งเอง มีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่นได้ที่มาตรฐานระดับ IP55 เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.4 มีความหน่วงต่ำ แบตเตอรี่ทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 54 ชั่วโมง

  • OPPO Enco Buds3 Pro ราคา 999 บาท

OPPO Enco Buds3 Pro

ภาพจาก : oppo.com

3. Samsung Galaxy Buds3

Galaxy Buds3 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความคล่องตัวและคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ในงบเข้าถึงง่ายขึ้น มาพร้อม Adaptive ANC และ Ambient Sound แบบเดียวกับรุ่น Pro ช่วยให้คุณควบคุมเสียงรอบข้างได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะต้องการจมอยู่กับเสียงเพลงหรือเปิดรับเสียงจากภายนอกก็สามารถเลือกปรับได้ตามต้องการ โดยเสียงยังคงชัดใส เบสแน่น ครบทุกมิติ ใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมได้อย่างเต็มอรรถรส

ความโดดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือดีไซน์แบบ Open-ear พร้อมก้านควบคุม ใช้งานสะดวก เพียงแตะก้านก็สามารถหยุด/เล่นเพลง, เพิ่ม/ลดเสียง หรือรับสายโทรศัพท์ได้ทันที เหมาะสำหรับใช้งานระหว่างเดินทางหรือทำงานนอกสถานที่ ซึ่งต้องการทั้งเสียงดีและความสะดวกในการควบคุม พร้อมไมโครโฟนคุณภาพสูง ช่วยให้เสียงสนทนาเคลียร์ชัด ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือใครก็ตามที่มองหาหูฟังแบบใช้งานได้หลากหลาย ก็สามารถพกพา Buds3 ได้ในทุกวัน

  • Samsung Galaxy Buds3 ราคา 5,490 บาท

Samsung Galaxy Buds3

ภาพจาก : samsung.com

4. Xiaomi Buds 5 Pro

หูฟังบลูทูธ Xiaomi ที่มาพร้อมไดรเวอร์ 3 ตัวแบบแกนร่วม แอมพลิฟายเออร์คู่ รองรับเสียงแบบ Lossless Qualcomm aptX มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟสูงสุด 55dB สามารถปรับได้หลายระดับ จูนเสียงโดย Harman AudioEFX พร้อมโปรไฟล์ EQ พิเศษ 2 แบบ สามารถควบคุมด้วยท่าทางอย่างรวดเร็ว สำหรับการบันทึก การถอดความ AI และการแปล

  • Xiaomi Buds 5 Pro ราคา 5,990 บาท

  • Xiaomi Buds 5 Pro Wi-Fi ราคา 6,490 บาท

Xiaomi Buds 5 Pro

ภาพจาก : mi.com

5. Samsung Galaxy Buds FE

หากใครกำลังมองหาหูฟังคุณภาพดี รองรับ Active Noise Cancellation แต่ราคาเข้าถึงได้ง่าย Galaxy Buds FE คือคำตอบที่ลงตัว แถมยังมาพร้อมไมโครโฟน 3 ตัว ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี แม้นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์ก็ยังสามารถประชุมหรือคุยสายได้เสียงชัด ปลายทางไม่ได้ยินเสียงลม เสียงรถ หรือเสียงคน จึงใช้งานได้ดีในทุกสถานการณ์

แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่ Buds FE ก็ให้คุณภาพเสียงดีไม่น้อย จะฟังเพลงคลาสสิก เพลงเบสหนัก หรือประชุมออนไลน์ เสียงก็ยังคงคมชัด และเนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พร้อมดีไซน์ถูกออกแบบมาให้ใส่สบาย ใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกเจ็บหรือหลุดง่าย ทำให้เหมาะมากสำหรับนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน แม้ต้องคุยสายหรือประชุมบ่อย ๆ ก็ใช้งานได้นานโดยไม่เมื่อยล้า และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าสู่โลกของหูฟัง ANC โดยไม่ต้องจ่ายแพง

  • Samsung Galaxy Buds FE ราคา 3,390 บาท

Samsung Galaxy Buds FE

ภาพจาก : samsung.com

6. JBL Tour Pro 3

หูฟังบลูทูธ JBL ที่ใช้ไดรเวอร์ Hybrid dual-driver รองรับเสียงคุณภาพสูง Hi-Res ระดับ LDAC ให้เสียงคมชัดและทรงพลัง รวมทั้งรองรับเสียงรอบทิศทาง JBL Spatial 360 พร้อมการติดตามศีรษะ มีไมโครโฟน 6 ตัว ใช้ JBL Crystal AI Algorithm ช่วยให้เสียงสนทนาชัดเจนขึ้น และระบบตัดเสียงรบกวนที่สามารถปรับระดับการตัดเสียงได้ผ่านแอปฯ อีกทั้งยังสามารถตรวจจับได้เมื่อมีเสียงพูดคุย ระบบจะหยุดเพลงและเปิดโหมดให้ได้ยินเสียงรอบข้างอัตโนมัติ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 44 ชั่วโมง

  • JBL Tour Pro 3 ราคา 11,500 บาท

JBL Tour Pro 3

ภาพจาก : jblthailand.com

7. HUAWEI FreeBuds Pro 4

หูฟังบลูทูธ HUAWEI ที่มาพร้อม Dual-driver True Sound ให้เสียงคมชัด เสียงสนทนาเสถียร ด้วยระบบลดเสียงรบกวนอัจฉริยะ (Intelligent Dynamic ANC) มีปลอกหูฟังแบบฟองน้ำซึ่งสามารถจดจำรูปร่างลักษณะหูสามชั้นเพื่อช่วยขจัดเสียงรบกวนรอบข้างได้มากขึ้นถึง 30% นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหูฟังด้วยการขยับศีรษะได้ เช่น การรับสายหรือตัดสายโทรศัพท์ด้วยการพยักหน้าหรือส่ายหัว และรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์เพื่อสลับใช้งานได้สะดวก แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 33 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม

  • HUAWEI FreeBuds Pro 4ราคา 5,990 บาท

HUAWEI FreeBuds Pro 4

ภาพจาก : huawei.com

8. Sony LinkBuds Fit

หูฟังบลูทูธ Sony ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ด้วยตัวรองรับและจุกเอียร์บัดที่ออกแบบมาให้สามารถสวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน รวมทั้งขณะออกกำลังกาย มีระบบตัดเสียงรบกวนโหมดเสียงรอบข้าง ซึ่งจะปรับการทำงานให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ โดยจะลดเสียงรบกวนแต่ยังคงสามารถได้ยินเสียงรอบข้างที่สำคัญ สามารถควบคุมระดับเสียงและการเล่นเพลงได้บริเวณตัวหูฟัง โดยปรับแต่งรูปแบบการควบคุมของหูฟังแต่ละข้างได้ตามต้องการด้วยแอปฯ Sound Connect แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 5.5 ชั่วโมง และสามารถชาร์จจนเต็มได้ 3 ครั้งผ่านเคส

  • Sony LinkBuds Fit ราคา 7,490 บาท

Sony LinkBuds Fit

ภาพจาก : sony.co.th

9. AirPods 4

หูฟังบลูทูธไอโฟน AirPods 4 จาก Apple มาพร้อมชิป H2 ทำให้เสียงและการโทร. ถูกปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการฟังได้แทบทุกรูปแบบ แม้แต่เวลาที่ต้องการความเงียบสนิท เสียงโทร. ชัดขึ้นด้วยคุณสมบัติการแยกเสียง และวิธีใหม่ในการโต้ตอบกับ Siri แบบแฮนด์ฟรี แบตเตอรี่ฟังได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง นานสุด 4 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC และนานสูงสุด 30 ชั่วโมง เมื่อมีเคส ชาร์จด้วยพอร์ต USB‑C สามารถใช้ร่วมกับที่ชาร์จ Apple Watch และหัวชาร์จ Qi ได้ โดยมีทั้งรุ่นปกติและรุ่นตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟให้เลือก

  • AirPods 4 ราคา 4,990 บาท

  • AirPods 4 ANC ราคา 6,490 บาท

AirPods 4

ภาพจาก : apple.com

10. Nothing Ear (open)

หูฟังไร้สาย Nothing ที่ให้เสียงคมชัดด้วยเทคโนโลยีเสียงแบบเปิด วอยซ์คอยล์น้ำหนักเบา พร้อมไดอะแฟรมเคลือบไทเทเนียมแบบกำหนดเอง มีระบบการตัดคลื่นเสียงรบกวน และไมโครโฟนคู่ AI Clear Voice แบตเตอรี่เล่นเสียงได้ 30 ชั่วโมง สนทนาได้ 24 ชั่วโมง มีคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่น IP54 พร้อมเคสเก็บหูฟังดีไซน์แบบบาง

  • Nothing Ear (open) ราคา 5,599 บาท

Nothing Ear (open)

ภาพจาก : nothing.tech

วิธีเลือกซื้อหูฟังบลูทูธ ต้องดูอะไรบ้าง

1. In-Ear หรือ Earbud

หูฟังบลูทูธแบบ True Wireless โดยทั่วไปจะมีรููปทรง 2 แบบ คือ แบบ In-Ear กับแบบ Earbud ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความชอบ โดยหูฟัง In-Ear จะมีลักษณะเป็นจุกสอดเข้ารูหู ทำให้หลุดยากกว่าและลดเสียงจากภายนอกได้มากกว่า แต่บางคนใส่แล้วอาจรู้สึกอึดอัด ส่วนแบบ Earbud จะให้ความรู้สึกสบายหูขณะสวมใส่มากกว่า เมื่อใส่แล้วจะยังคงได้ยินเสียงภายนอกได้ชัดเจนอยู่ แต่บางคนอาจใส่แล้วหลุดง่าย

2. ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน

 หูฟังบลูทูธในปัจจุบันหลาย ๆ รุ่นโดยเฉพาะรุ่นที่มีราคาสูง มักจะมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) มาให้ในตัวด้วย โดยการใช้ไมโครโฟนบนตัวหูฟังตรวจจับเสียงรอบข้างที่รบกวนการฟังของเรา เพื่อตัดเสียงรบกวนให้ได้ยินเสียงจากหูฟังชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ระบบตัดเสียงของบางรุ่นจะมีความล้ำมากกว่าปกติ หรือมีการใช้เทคโนโลยีเช้ามาช่วยด้วย อย่างเช่นการเลือกตัดเสียงรบกวนรอบข้างแต่ยังคงได้ยินเสียงที่สำคัญหรือควรได้ยินอยู่

3. ความจุแบตเตอรี่

ถึงแม้ว่าหูฟังบลูทูธมักจะมีกล่องเคสที่เป็นเสมือนแบตเตอรี่สำรองไว้ชาร์จหูฟังได้ในตัว แต่ถ้าคิดอยากใช้คุยหรือฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน ๆ โดยที่ไม่ต้องใส่กล่องชาร์จบ่อย ๆ ควรมองหารุ่นที่แบตเตอรี่ใหญ่ ๆ ทั้งในตัวหูฟังและในเคส เพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น

4. คุณสมบัติกันน้ำ

ถ้าหากชอบใส่หูฟังบลูทูธไปข้างนอกตลอดเวลา ในช่วงหน้าฝนหูฟังก็อาจเปียกฝนได้ รวมถึงการใส่ออกกำลังกายหรือเล่นน้ำ การเลือกหูฟังที่มีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ดีก็จะสามารถช่วยป้องกันเหงื่อหรือน้ำเข้าได้ โดยถ้าเป็นรุ่นที่รองรับ IPX4 ขึ้นไป ก็จะสามารถกันฝนหรือกันน้ำกระเด็นใส่ได้ แต่ถ้าหากเป็น IPX7 ก็จะสามารถใส่อาบน้ำหรือว่ายน้ำได้เลย

หลังจากได้ทำความรู้จักกับหูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รุ่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจกันไปแล้ว หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังอยากได้หูฟังมาใช้สักอัน แต่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อรุ่นไหนดี บทความนี้ก็น่าจะช่วยให้ตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาที่ระบุไว้เป็นเพียงราคาเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการปรับราคาของร้านตัวแทนจำหน่ายและโปรโมชั่นในช่วงต่าง ๆ เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้เช็กราคากันอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อด้วยนะครับ

บทความแนะนำ Gadget อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : samsung.com, oppo.com, mi.com, sony.co.th, apple.com, huawei.com, nothing.tech, jblthailand.com

 

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รุ่นใหม่น่าสนใจ พร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน อัปเดตล่าสุด 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 12:01:29 49,216 อ่าน
TOP