รีบทำถ้าไม่อยากเสี่ยง ! วิธีตั้งค่าป้องกัน iPhone ถูกแฮกผ่านสาย USB-C สำหรับผู้ใช้ iPhone 15 หรือรุ่นใหม่กว่า โดยเฉพาะเครื่องที่ใช้ iOS 26 ขึ้นไป
ภาพจาก : shutterstock.com/ Photo Agency
ในยุคที่โทรศัพท์มือถือเก็บข้อมูลสำคัญไว้แทบทุกอย่าง ทั้งรูปภาพ เอกสาร ไปจนถึงข้อมูลการเงิน เรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ตั้งแต่ iPhone 15 Series ที่เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ที่แม้จะใช้งานสะดวกขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงหากมีผู้ไม่หวังดีนำสายหรืออุปกรณ์เสริมมาเชื่อมต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเนื่องจากใน iOS 26 ระบบจะตั้งค่าเริ่มต้นของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB-C ไว้เป็น "อนุญาตอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ล็อก" (Automatically Allow When Unlocked) หรือ "อนุญาตเสมอ" (Always Allow) รวมทั้งบางคนที่อาจจะเผลอไปตั้งค่าเลือกแบบนี้เอาไว้ ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยง เพราะหากผู้ใช้ปลดล็อกเครื่องไว้แล้ว iPhone ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น ผู้ไม่หวังดีก็อาจสามารถเชื่อมต่อสาย USB-C เพื่อเข้าถึงหรือแฮกข้อมูลภายในเครื่องได้ทันที
วิธีตั้งค่าป้องกัน iPhone ถูกแฮกผ่านสาย USB-C
สำหรับผู้ใช้ iPhone รุ่นพอร์ต USB-C ไม่ว่าจะเป็น iPhone 17 Series, iPhone Air, iPhone 16 Series และ iPhone 15 Series สามารถตั้งค่าเพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกแฮกผ่านสายได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
เข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings)
-
เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy & Security)
-
เลือกหัวข้อ อุปกรณ์เสริมแบบมีสาย (Wired Accessories)
-
ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง "ถามเสมอ" (Always Ask) หรือ "ถามเมื่อใช้อุปกรณ์เสริมใหม่" (Ask for New Accessories)
อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าดังกล่าวเป็นเพียงการลดความเสี่ยงจากการถูกแฮกเท่านั้น ซึ่งอาจไม่สามารถป้องกันได้ 100% ซึ่งผู้ใช้ควรมีความระมัดระวังในการใช้งานจริงด้วย เช่น หลีกเลี่ยงการใช้สายหรืออุปกรณ์เสริมที่ไม่รู้แหล่งที่มา ไม่เสียบสายชาร์จหรือเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านพอร์ต USB-C ในจุดสาธารณะโดยไม่จำเป็น และไม่วาง iPhone ทิ้งไว้ในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย หรือห่างสายตาเป็นเวลานาน






