ใครทำโทรศัพท์ตกน้ำ อย่าเพิ่งตกใจ ตั้งสติให้ดี แล้วรีบทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ มีโอกาสช่วยชีวิตให้โทรศัพท์มือถือกลับมาใช้งานได้ !

โทรศัพท์ตกน้ำ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่หลายคนก็อาจเคยเผลอทำหล่นในอ่างล้างหน้า โถส้วม หรือแม้แต่สระว่ายน้ำ รวมถึงการทำตกน้ำในช่วงที่มีฝนตกน้ำท่วม ซึ่งปัญหาคือ เมื่อโทรศัพท์เปียกน้ำแล้วควรจะทำยังไงต่อดี รีบเปิดเครื่องดูเลยดีไหม หรือควรรีบเช็ดให้แห้งก่อน โดยวันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากเพื่อน ๆ กัน
โทรศัพท์ตกน้ำ ทํายังไงดี ?
เมื่อรู้ตัวว่าโทรศัพท์ตกน้ำ สิ่งที่ควรรีบทำทันทีมีดังนี้
1. รีบหยิบขึ้นจากน้ำโดยเร็วที่สุด
ยิ่งอยู่ในน้ำนาน ความเสียหายภายในก็มีโอกาสมากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงควรรีบหยิบขึ้นมาทันที เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย
2. ปิดเครื่องทันที (ถ้ายังเปิดอยู่)
การใช้งานต่อหลังเปียกน้ำอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ การปิดเครื่องจึงเป็นการช่วยลดโอกาสความเสียหายภายใน
3. เช็ดให้แห้งด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชู
ใช้ผ้านุ่มซับน้ำบริเวณภายนอกตัวเครื่อง รวมถึงช่องเสียบต่าง ๆ โดยอย่าขยับหรือเขย่าแรง เพราะน้ำอาจกระจายเข้าไปลึกกว่าเดิมได้
4. ถอดซิมและการ์ดหน่วยความจำ
เพื่อลดความชื้นในช่องต่าง ๆ และป้องกันการเสียหายของข้อมูล แนะนำให้ถอดซิมและการ์ดหน่วยความจำอย่างเช่น microSD ออกจากตัวเครื่องให้หมด รวมทั้งถอดแบตเตอรี่ออกด้วย (หากเป็นรุ่นที่สามารถถอดได้)

5. ใช้ซองซิลิกาเจล
นำโทรศัพท์ใส่ในถุงซิปล็อกที่มีซองกันชื้นหรือซิลิกาเจล แล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 24-72 ชั่วโมง เพื่อดูดความชื้นออกจากตัวเครื่อง
6. นำส่งศูนย์บริการ
หากลองเปิดเครื่องหลังจากดูดความชื้นออกแล้ว แต่พบว่าเครื่องยังไม่ตอบสนอง หรือไม่แน่ใจว่าภายในแห้งดีหรือยัง ควรนำส่งศูนย์บริการเพื่อให้ช่างเทคนิคตรวจสอบและดำเนินการซ่อมต่อไป
สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดเมื่อโทรศัพท์ตกน้ำ
การทำสิ่งเหล่านี้จะเสี่ยงให้วงจรไฟฟ้าภายในเกิดความเสียหายมากกว่าเดิม
-
ห้ามชาร์จแบตเตอรี่เด็ดขาด
-
ห้ามเปิดเครื่องเพื่อเช็กว่าใช้งานได้ไหม
-
ห้ามใช้ไดร์เป่าผมเป่าลมร้อนใส่เครื่อง
-
ห้ามเขย่าหรือเคาะเครื่องแรง ๆ
โทรศัพท์ตกน้ำ แช่ข้าวสารหายไหม ?
ถึงแม้ว่าข้าวสารจะมีคุณสมบัติดูดความชื้นได้ในระดับหนึ่ง และสามารถช่วยดูดความชื้นออกจากโทรศัพท์มือถือได้ แต่การนำโทรศัพท์ไปแช่ในข้าวสารโดยตรงนั้นอาจส่งผลให้ฝุ่นข้าวหรือเศษผงเข้าไปในพอร์ตต่าง ๆ เช่น พอร์ตชาร์จ ลำโพง หรือลำโพงสนทนา ก่อให้เกิดความเสียหายตามมาได้ และข้าวสารก็ยังไม่สามารถดูดซับความชื้นได้ดีเท่ากับซิลิกาเจลอีกด้วย
โทรศัพท์ตกน้ำ จอดับ ซ่อมกี่บาท ?
หากทำตามวิธีต่าง ๆ ที่ได้แนะนำไปแล้ว แต่พบว่าโทรศัพท์มือถือยังไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือมีอาการจอดับ อยากรู้ว่าจะเสียค่าซ่อมกี่บาท คงต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความเสียหายและรุ่นของโทรศัพท์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากจอดับเพราะระบบป้องกันจากความชื้น แค่ล้างเครื่องไล่ความชื้น ค่าซ่อมอาจเพียงแค่หลักร้อย แต่ถ้าถึงกับหน้าจอเสียหายหรือแผงเมนบอร์ดช็อต อาจต้องเสียค่าซ่อมหลายพันไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งในกรณีนี้หากเป็นเครื่องเก่าที่ใช้มานานหลายปีแล้ว การตัดสินใจซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ก็อาจคุ้มกว่า
แล้วถ้าโทรศัพท์กันน้ำล่ะ ?
ปัจจุบันโทรศัพท์หลายรุ่นมีคุณสมบัติกันน้ำ เช่น มาตรฐาน IP67 หรือ IP68 แต่ไม่ควรเข้าใจผิดว่ากันน้ำได้ตลอดเวลาหรือทุกรูปแบบ เพราะการกันน้ำมีขีดจำกัด เช่น ลึกไม่เกิน 1-1.5 เมตร ในเวลาไม่เกิน 30 นาที และอาจไม่ได้หมายความว่าตัวเครื่องจะปลอดภัยจากน้ำทะเล น้ำสบู่ หรือคลอรีนในสระว่ายน้ำ เพราะฉะนั้นถ้าหากทำโทรศัพท์ตกน้ำแล้วเริ่มมีปัญหา แม้จะเป็นรุ่นที่กันน้ำได้ก็ยังควรปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นเช่นกัน
สุดท้ายแล้วหากโทรศัพท์ของเพื่อน ๆ ตกน้ำก็อย่าเพิ่งตกใจ แค่ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงสิ่งที่ควรห้าม และหากจำเป็นควรนำไปให้ศูนย์บริการตรวจสอบ อาจช่วยให้โทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ และอย่าลืมว่า “กันน้ำ” ไม่ได้แปลว่า “กันเสีย” การป้องกันไว้ก่อนคือทางออกที่ดีที่สุด