10 เหตุผล ทำไม iOS ดีกว่า Android ในปี 2025 …แล้วดีจริงหรือ ?

เปิด 10 เหตุผล ทำไม iOS ดีกว่า Android ในปี 2025 เพราะอะไรคนใช้ iPhone ถึงมักไม่เปลี่ยนใจไปใช้มือถือแบรนด์อื่น แม้จะมีข้อจำกัดหลายอย่างก็ตาม

10 เหตุผล ทำไม ios ดีกว่า android

ภาพจาก : shutterstock.com / Framesira

ในโลกของสมาร์ตโฟนยุคปัจจุบัน แม้ทั้ง iOS และ Android จะพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ มากมายให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้ แต่การเลือกว่าจะอยู่ฝั่งไหนก็ยังเป็นคำถามที่ถกเถียงกันมานาน และน่าจะไม่สามารถฟันธงได้ว่าระบบไหนดีกว่าอย่างแท้จริง โดยสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนโดยเฉพาะผู้ใช้ Android ต่างก็สงสัยกันว่า อะไรคือข้อดีที่ทำให้คนใช้ iOS มักจะเหนียวแน่น ไม่เปลี่ยนใจไปใช้ Android ได้ง่าย ๆ วันนี้เราจึงมี 10 เหตุผล ทำไม iOS ดีกว่า Android ในปี 2025 มาช่วยไขข้อสงสัยในเรื่องนี้กัน

10 เหตุผล ทำไม iOS ดีกว่า Android

1. อัปเดตระบบเร็วกว่า และครอบคลุมทุกเครื่อง

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เห็นได้ชัดของ iOS คือการอัปเดตระบบปฏิบัติการที่ทั่วถึงและสม่ำเสมอ เมื่อ Apple ปล่อย iOS เวอร์ชันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์หรือแพตช์ความปลอดภัย ผู้ใช้ iPhone ทั่วโลกก็สามารถอัปเดตได้พร้อมกันทันที ซึ่งต่างจากฝั่ง Android ที่แม้ว่า Google จะออก Android เวอร์ชันใหม่ทุกปี แต่กว่าจะถึงมือผู้ใช้จริงต้องผ่านการปรับแต่งจากผู้ผลิต (OEM) ก่อน เช่น Samsung, Xiaomi, vivo หรือแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งใช้เวลาหลายเดือน และอาจไม่ได้อัปเดตทุกเครื่อง โดยเฉพาะรุ่นราคาถูก

2. การทำงานลื่นไหลแม้สเปกไม่สูง

iPhone มักมาพร้อมแรมน้อยกว่า Android แต่กลับใช้งานได้ลื่นไหลกว่า เพราะ iOS ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับชิป Apple Silicon ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งการจัดการพลังงานและหน่วยความจำในระบบยังมีความฉลาด ทำให้สามารถเปิดแอปพลิเคชันสลับไปมาได้รวดเร็ว ไม่มีหน่วง แต่ในฝั่ง Android ที่ถึงแม้จะใส่แรมมาให้ 12GB หรือ 16GB แต่เพราะระบบต้องรองรับหลากหลายอุปกรณ์ ทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้ากันของซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์ได้ง่ายกว่า

3. ความปลอดภัยของข้อมูลที่เหนือกว่า

Apple ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้มากเป็นพิเศษ ด้วยระบบความปลอดภัยหลายชั้น เช่น Face ID ที่แม่นยำ, ระบบเข้ารหัสข้อมูลในเครื่อง, การอนุญาตสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลแบบละเอียดในแต่ละแอปพลิเคชัน รวมถึงการไม่อนุญาตให้ติดตั้งแอปจากนอก App Store (ยกเว้นใน EU ที่มีข้อบังคับพิเศษ) ในขณะที่ Android ยังคงเปิดให้ติดตั้งไฟล์ APK ได้จากแหล่งอื่น ซึ่งเป็นช่องทางหลักของมัลแวร์ นอกจากนี้ Android บางค่ายก็มีปัญหาเรื่องข้อมูลรั่วไหลจากแอปพลิเคชันของตัวเองที่ฝังมากับเครื่อง

4. อายุการใช้งานซอฟต์แวร์ยาวนาน

Apple มักซัพพอร์ตอัปเดตให้กับ iPhone เป็นระยะเวลานานกว่า 5 ปีขึ้นไป ตัวอย่างเช่น iPhone 11 ที่เปิดตัวในปี 2019 ยังได้รับ iOS 26 ในปี 2025 อย่างสบาย ๆ ตรงข้ามกับ Android ที่ส่วนใหญ่จะได้อัปเดต Android เวอร์ชันใหม่เพียง 2-3 ปี และแพตช์ความปลอดภัยประมาณ 3-4 ปี แม้ในปัจจุบัน Google และ Samsung จะเริ่มให้สัญญาซัพพอร์ตนานขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดขึ้นอยู่กับรุ่นและระดับราคา

5. แอปฯ บน iOS มีคุณภาพและปลอดภัยกว่า

App Store ของ Apple มีระบบการตรวจสอบแอปพลิเคชันที่เข้มงวดมาก ทั้งในแง่ของความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และคุณภาพของแอป ส่งผลให้แอปฯ ส่วนใหญ่บน iOS มีเสถียรภาพดีกว่า และมักจะได้ฟีเจอร์ใหม่ก่อน Android โดยหลาย ๆ แอปฯ ก็มีเวอร์ชันบน iOS ที่ลื่นและลูกเล่นครบกว่าบน Android ในช่วงแรก เพราะนักพัฒนาให้ความสำคัญกับระบบ iOS ที่มีอุปกรณ์ไม่หลากหลาย จึงง่ายต่อการพัฒนาและทดสอบ

6. Ecosystem ของ Apple เชื่อมต่อกันได้ดีแบบไร้รอยต่อ

หนึ่งในจุดแข็งของ Apple คือ ระบบ Ecosystem ที่อุปกรณ์ทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกันแบบไร้รอยต่อ ทำให้การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ เช่น Mac, iPad, Apple Watch, AirPods มีความลื่นไหล เช่น การโอนสายโทรศัพท์, แชร์รูปผ่าน AirDrop หรือใช้ Universal Clipboard ทำงานข้ามอุปกรณ์ได้อย่างสะดวก และถึงแม้ว่า Android จะมีฟีเจอร์ลักษณะนี้เช่นกัน แต่จะใช้งานข้ามแบรนด์ได้ยาก และต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหรือบริการของ Google เพิ่มเติมหลายอย่าง

10 เหตุผล ทำไม ios ดีกว่า android

ภาพจาก : shutterstock.com / Shahid Jamil

7. ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับทุกคน

iOS ขึ้นชื่อเรื่องความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ เมนูต่าง ๆ ออกแบบให้เข้าใจง่าย ทุกคนสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่และผู้สูงอายุ ในขณะที่ Android แม้จะมีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นและปรับแต่งได้หลากหลายกว่า แต่ก็ส่งผลให้มีความซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งยังมี UI แตกต่างกันตามแบรนด์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้สับสนหรือใช้งานยากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ถนัดเทคโนโลยี

8. ไม่มีโฆษณาแฝงในระบบ

ผู้ใช้ Android บางแบรนด์ อาจต้องเจอโฆษณาภายในระบบ (UI) โดยเฉพาะในแอปพลิเคชันของบริษัทผู้ผลิตเอง เช่นตัวจัดการไฟล์, แอปฯ สแกนไวรัส หรือแอปฯ ดาวน์โหลดธีม แต่ iOS ไม่มีโฆษณาภายในระบบเลย ทำให้การใช้งาน iPhone ดูสะอาดและไม่ถูกรบกวน ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้เป็นอย่างมาก

9. ย้ายข้อมูลและกู้คืนเครื่องง่ายดาย

iPhone มาพร้อมระบบ iCloud ที่สามารถสำรองข้อมูลอัตโนมัติ และสามารถโคลนทุกอย่างกลับมาได้เหมือนเดิมเมื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่ ทั้งรายชื่อ, รูปภาพ, แอปพลิเคชัน, รหัส Wi-Fi และอื่น ๆ ส่วน Android แม้จะมี Google Backup แต่ประสบการณ์ย้ายข้อมูลระหว่างเครื่องต่างแบรนด์ หรือข้ามเวอร์ชัน อาจไม่สมบูรณ์ 100% และบางครั้งต้องตั้งค่าใหม่หลายจุด

10. ขายต่อได้ราคาดีกว่า

iPhone ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่มีมูลค่าขายต่อสูงที่สุดในตลาด ซึ่งจะยังคงมีราคาขายต่อดีแม้ผ่านไปหลายปี เพราะยังได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์ ใช้งานได้ลื่นไหล และมีดีไซน์ที่ไม่ตกยุค แต่มือถือ Android ส่วนใหญ่ราคาจะตกเร็ว ยิ่งเป็นรุ่นกลางหรือต่ำกว่า ยิ่งไม่มีคนรับซื้อหรือรับเทิร์น ทำให้ iPhone คุ้มค่ากว่าหากคิดถึงการใช้งานระยะยาว โดยเฉพาะในผู้ที่ชอบขายต่อหรือเทิร์นเครื่องเก่าแลกเครื่องใหม่

iOS มีข้อดีตั้งมากมาย แต่ทำไมหลายคนเลือกใช้ Android ?

ถึงแม้ว่าระบบปฏิบัติการ iOS ของ iPhone จะมีข้อดีหลากหลายประการตามที่ได้กล่าวไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า iOS ยังมีหลายอย่างที่เป็นจุดด้อยและทำให้คนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะใช้ Android กันมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นในการปรับแต่งใช้งาน ความหลากหลายของอุปกรณ์และราคาที่มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นราคาสุดประหยัดจนถึงเรือธง อีกทั้งนวัตกรรมและฟีเจอร์ใหม่ ๆ หลายอย่างก็ยังมีให้ใช้บน Android ก่อน iPhone หลายปี และที่สำคัญคือหลายคนไม่อยากติดอยู่ใน Ecosystem ของ Apple เพราะจะทำให้เปลี่ยนไปใช้มือถือแบรนด์อื่นได้ยากลำบากมากขึ้นนั่นเอง

สุดท้ายแล้วการจะตัดสินใจว่าควรเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการใดดีนั้น คงไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพราะต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย โดยให้ความสำคัญกับความชอบและความต้องการของตัวผู้ใช้เองเป็นหลักครับ

บทความเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 เหตุผล ทำไม iOS ดีกว่า Android ในปี 2025 …แล้วดีจริงหรือ ? อัปเดตล่าสุด 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 14:16:08 3,412 อ่าน
TOP