ส่องโทรศัพท์มือถือ 2025 หลากหลายยี่ห้อที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีรุ่นไหนเด่น ๆ น่าสนใจบ้าง ถ้าอยากรู้ต้องตามไปดู
ต้อนรับครึ่งปีหลังกันด้วยโทรศัพท์มือถือใหม่รุ่นต่าง ๆ ที่จะเปิดตัวตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมจนถึงธันวาคม 2025 ซึ่งก็จะมีทั้งรุ่นที่เพิ่งตัวไปหมาด รวมถึงอีกหลายรุ่นที่มีข่าวลือข้อมูลหลุดและจ่อติวเตรียมเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ หากเพื่อน ๆ คนไหนอยากรู้ว่ามือถือ 2025 น่าจะมีรุ่นไหนและอัปเกรดเทคโนโลยีอะไรบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมมาให้ดูกันแล้ว
มือถือเปิดตัวใหม่ 2025 ครึ่งปีหลัง จะมีรุ่นไหนบ้าง
1. OPPO Reno14 Series
OPPO Reno14 Series มือถือที่เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2025 โดยชูจุดเด่นเป็นฟีเจอร์ Livephoto สามารถถ่ายขณะเปิดแฟลชและถ่ายในโหมด Slow Motion ได้ รวมถึงการนำวิดีโอ 4K HDR มาทำเป็นภาพ Livephoto ความยาว 3 วินาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นมาตรฐาน IP69 โดย OPPO Reno14 Pro ตัวท็อปสุดจะมีสเปกประกอบไปด้วย หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.83 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8450 รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แรม 12GB ความจุ 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP OIS พร้อมเลนส์ Ultrawide 50MP และ Telephoto 50MP ซูมได้ 3.5x กล้องหน้า 50MP แบตเตอรี่ 6200mAh รองรับชาร์จเร็ว SUPERVOOC 80W และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15.0
ส่วนรุ่นรองอย่าง OPPO Reno14 จะมีสเปกที่ต่างจากตัวท็อปคือ หน้าจอขนาด 6.59 นิ้ว กล้องหลังเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP และแบตเตอรี่ขนาด 6000mAh นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นน้องเล็กสุด OPPO Reno14 F ที่มีสเปกบางส่วนลดหลั่นมาจากรุ่น Reno14 ก็คือ หน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 6 Gen 1 รองรับ Wi-Fi 5 กล้องหลังไม่มีเลนส์ Telephoto กล้องหน้า 32MP และแบตเตอรี่รองรับชาร์จเร็ว 45W
-
OPPO Reno14 ราคาเริ่มต้น 2,799 หยวน (ประมาณ 12,900 บาท)
-
OPPO Reno14 Pro ราคาเริ่มต้น 3,499 หยวน (ประมาณ 15,900 บาท)
2. vivo X200 FE

ภาพจาก : vivo.com
มือถือ vivo กล้อง ZEISS สเปกแรง ตัวเครื่องบางเฉียบ 7.99 มม. น้ำหนักเบา 186 กรัม ที่เปิดตัวในไทยวันที่ 3 กรกฎาคม 2025 มีแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุ 6500mAh ดู YouTube ได้นานสุด 25.44 ชั่วโมง เล่นเกมได้นานต่อเนื่อง 9.55 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 90W FlashCharge ชาร์จเต็ม 100% ใน 57 นาที หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.31 นิ้ว FHD+ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 9300+ มาพร้อมกล้องหลัก ZEISS 50MP + กล้องซูเปอร์เทเลโฟโต้ ZEISS 50MP + กล้องมุมกว้างพิเศษ 8MP กับฟีเจอร์ AI Image Studio ที่ช่วยจัดองค์ประกอบ ขยายภาพ และปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้ และรันระบบปฏิบัติการ Android ครอบทับด้วย Funtouch OS 15
- vivo X200 FE 12GB/512GB ราคา 24,999 บาท
3. Sony Xperia 1 VII

ภาพจาก : sony.co.th
มือถือ Sony ที่มาพร้อมกล้อง AI 3 เลนส์ 52MP และเซนเซอร์มุมกว้างพิเศษที่ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อการสร้างเนื้อหาต่าง ๆ กล้องหน้า 12MP ผสานกับดีเอ็นเอของ WALKMAN ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น มีจอแสดงผล Xperia ขนาด 6.5 นิ้ว FHD+ HDR OLED 120Hz พร้อมด้วย BRAVIAระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ 2 วัน และชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite แรม 12GB ความจุ 256GB และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 พร้อม Xperia Intelligence ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ภาพและเสียง รวมถึงการถ่ายถาพ มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น IP68 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในไทยตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2025 เป็นต้นไป
-
Sony Xperia 1 VII 12GB/256GB ราคา 40,990 บาท
4. Nothing Phone (3)

ภาพจาก : nothing.tech
Nothing Phone (3) มือถือที่มีจุดเด่นคือด้านหลังตัวเครื่องจะมี Glyph แบบ Dot Matrix สามารถปรับแต่งการแจ้งผลได้ เช่น ให้แสดงภาพเคลื่อนไหวหรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ ส่วนด้านสเปกนั้นจะประกอบไปด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8s Gen 4 รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 12GB/16GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ Main 50MP OIS + Ultrawide 50MP + Telephoto 50MP OIS, Optical Zoom 3x, Digital Zoom 60x พร้อมเทคโนโลยี TrueLens Engine 4 และ Ultra XDR มี AI ช่วยปรับภาพและวิดีโอ กล้องหน้า 50MP แบตเตอรี่ 5150mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W และชาร์จไร้สาย 15W รวมทั้งสามารถจ่ายไฟ 7.5W และจ่ายไฟไร้สาย 5W มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ กับคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นที่มาตรฐาน IP68 รันระบบปฏิบัติการ Android 15 รองรับการอัปเดตนาน 7 ปี โดยจะมีการประกาศราคาไทยในวันที่ 25 กรกฎาคม 2025
-
Nothing Phone (3) 256GB ราคา $799 (ประมาณ 25,900 บาท)
-
Nothing Phone (3) 512GB ราคา $899 (ประมาณ 28,900 บาท)
5. Samsung Galaxy Z Flip7 / Z Fold7

ภาพจาก : samsung.com
โทรศัพท์พับได้รุ่นใหม่จาก Samsung ที่มีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 โดยได้มีการเปิดเผยข้อมูลมาว่าจะชูจุดเด่นในเรื่องของความบางเป็นพิเศษ ซึ่งคาดว่า Galaxy Z Fold7 จะใช้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 8 Elite เหมือนกับ Samsung Galaxy S25 Series ส่วน Galaxy Z Flip7 มีข้อมูลหลุดมาว่าหน้าจอด้านนอกจะเป็นแบบเต็มขอบ และใช้ชิป Exynos 2500 นอกจากนี้ก็อาจจะมีรุ่นที่ราคาย่อมเยาลงมาอย่าง Galaxy Z Flip7 FE ซึ่งใช้ชิป Exynos 2400 อีกด้วย
6. HUAWEI Pura80 Series

ภาพจาก : huawei.com
HUAWEI เพิ่งเปิดตัวมือถือกล้องเทพอย่าง Pura80 Series ไปในประเทศจีนได้ไม่นาน และน่าจะเปิดตัวในไทยในเร็ว ๆ นี้ โดยจากสเปกที่เปิดตัวมารุ่นท็อปสุด Pura80 Ultra จะมาพร้อมหน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.8 นิ้ว FHD+ 120Hz แรม 12GB ความจุสูงสุด 1TB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP OIS พร้อมเลนส์ Telephoto 48MP Optical Zoom 4x, Digital Zoom 100x กล้องหน้า 13MP แบตเตอรี่ 5700mAh ชาร์จเร็ว 100W ชาร์จไร้สาย 80W และรันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 5.1 ส่วนรุ่นรองอย่าง Pura80 Pro และ Pro+ จะมีสเปกลดหลั่นกันลงมา
-
HUAWEI Pura 80 Pro ราคาเริ่มต้น 6,499 หยวน (ประมาณ 29,900 บาท)
-
HUAWEI Pura 80 Pro+ ราคาเริ่มต้น 7,999 หยวน (ประมาณ 36,900 บาท)
-
HUAWEI Pura 80 Ultra ราคาเริ่มต้น 9,999 หยวน (ประมาณ 45,900 บาท)
7. Xiaomi MIX Flip 2

ภาพจาก : mi.com
โทรศัพท์ดีไซน์ฝาพับจาก Xiaomi ที่เพิ่งเปิดตัวในจีนไปหมาด หน้าจอหลัก AMOLED 6.86 นิ้ว FHD+ 120Hz หน้าจอนอก AMOLED 4.01 นิ้ว 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 12GB/16GB ความจุเลือกได้สูงสุด 1TB กล้องหลังคู่ Light Hunter 800 50MP กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 5165mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W ชาร์จไร้สาย 50W และรันระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS 2 ส่วนการเปิดตัวยังไม่มีกำหนด แต่คาดว่าน่าจะภายในช่วงปี 2025
-
Xiaomi MIX Flip 2 12GB/256GB ราคา 5,999 หยวน (ประมาณ 26,900 บาท)
-
Xiaomi MIX Flip 2 12GB/512GB ราคา 6,499 หยวน (ประมาณ 29,900 บาท)
-
Xiaomi MIX Flip 2 16GB/1TB ราคา 7,299 หยวน (ประมาณ 32,900 บาท)
8. iPhone 17 Series

ภาพจาก iPhone 16 จาก apple.com
มีข่าวลือว่าใน iPhone 17 Series อาจจะไม่มีรุ่น Plus แต่จะเป็น iPhone 17 Air ที่เข้ามาแทนที่ โดยจะเป็นรุ่นที่เน้นตัวเครื่องแบบบางเฉียบ มีความหนาเพียง 5.5 มม. และมีน้ำหนักเพียง 145 กรัม แต่อาจต้องแลกมาด้วยการตัดฮาร์ดแวร์บางส่วนออก เช่น ถาดใส่ซิม ทำให้รองรับแค่ eSIM และมีกล้องหลังเพียง 1 ตัวเท่านั้น รวมถึงขนาดของแบตเตอรี่ก็อาจจะมีขนาดไม่ถึง 3000mAh ด้วย โดยจะมีหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่า iPhone 16 Plus ที่มีขนาด 6.7 นิ้ว ส่วน iPhone 17 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.3 เท่ากับ iPhone 17 Pro นอกจากนี้ก็น่าจะเป็นครั้งแรกที่ iPhone 17 Series ทุกรุ่นจะมีหน้าจอรองรับ ProMotion 120Hz จากที่ก่อนหน้านี้จะมีเฉพาะในรุ่น Pro และแน่นอนว่าชิปประมวลผลก็จะอัปเกรดเป็น A19 ในรุ่นพื้นฐานและ A19 Pro ในรุ่น Pro ด้วย ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายน 2025
นอกจากมือถือรุ่นต่าง ๆ ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว ในปี 2025 ก็น่าจะมีมือถือยี่ห้ออื่น ๆ เตรียมเปิดตัวกันอีกมากมายหลายรุ่น เพียงแต่ยังไม่มีข้อมูลในขณะนี้ ยังไงก็คงต้องรอติดตามข่าวกันต่อไปนะครับ
บทความโทรศัพท์มือถือใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : oppo.com, vivo.com, apple.com, mi.com, samsung.com, huawei.com, nothing.tech, sony.co.th