รวมโทรศัพท์มีไฟด้านหลัง ปี 2024 มีรุ่นไหนบ้าง ดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร โทรศัพท์มือถือดีไซน์เท่ ๆ ที่เหมาะกับคนอยากมีไฟ
สำหรับใครที่ชอบความแปลกใหม่และต้องการโทรศัพท์มือถือที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ก็น่าจะสนใจหรืออยากได้โทรศัพท์ที่มีไฟข้างหลัง ที่นอกจากจะเด่นในเรื่องของดีไซน์แล้ว ยังมักจะมีประโยชน์อื่น ๆ อีกอย่างเช่นการแสดงไฟแจ้งเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้า รวมทั้งอาจสามารถปรับแต่งสีและรูปแบบของไฟได้อีกด้วย และในวันนี้เราจะมาแนะนำโทรศัพท์มีไฟด้านหลังให้เพื่อน ๆ ได้พิจารณาเลือกซื้อกัน
โทรศัพท์ที่มีไฟข้างหลัง มีรุ่นไหนบ้าง
1. Nothing Phone (2a) Plus
มือถือ Nothing สเปกแรง ที่มีดีไซน์ด้านหลังเครื่องแบบ Glyph Interface ปรับแต่งได้ 15 ฟังก์ชัน หน้าจอ AMOLED แบบยืดหยุ่นขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ความสว่างสูงสุด 1300nits รองรับ 120 Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 7350 Pro 5G แรมสูงสุด 20GB (12GB+8GB RAM Booster) กล้องหลังคู่ 50MP กล้องหน้า 50MP แบตเตอรี่ 5000mAh ดู YouTube ได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมง และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Nothing OS 2.6
- Nothing Phone (2a) Plus ราคา 15,490 บาท
2. REDMAGIC 9S Pro
มือถือเกมมิ่งจาก nubia มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผลตัวแรง Snapdragon 8 Gen 3 Leading Version รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 12GB/16GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ Dual Cell 6500mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W พร้อมปุ่ม Trigger แบบสัมผัส ระบบระบายความร้อน ICE 13.5 Magic Cooling System และไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งได้ รันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย REDMAGIC OS 9.5
- REDMAGIC 9S Pro 12GB/256GB ราคา 27,990 บาท
- REDMAGIC 9S Pro 16GB/512GB ราคา 33,990 บาท
3. Infinix GT 20 Pro
มือถือเกมมิ่งราคาหมื่นต้น ๆ จาก Infinix ที่มีดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Cyber Mecha พร้อมอินเทอร์เฟซ LED Mecha Loop ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8200 รองรับ 5G แรม 12GB มีฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มเป็นสูงสุด 24GB ความจุ 256GB มีหน้าจอ AMOLED แบบไร้ขอบขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 144Hz กล้องหลัง 3 เลนส์ 108MP OIS กล้องหน้า 32MP ลําโพงคู่ Sound by JBL แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP54 และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย XOS 14
- Infinix GT 20 Pro ราคา 12,999 บาท
4. TECNO POVA 6 Pro 5G
มือถือเล่นเกมราคาประหยัด มีด้านหลังเครื่องเป็นดีไซน์แบบ Dynamic-Tech พร้อมเอฟเฟกต์ไฟแบบไดนามิก หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 6080 รองรับ 5G แรม 8GB พร้อมฟีเจอร์ขยายแรมอีก 8GB รวมเป็น 16GB ความจุ 256GB กล้องหน้า 32MP กล้องหลังคู่ 108MP+2MP ถ่ายภาพและเซลฟี่ได้ละเอียดคมชัด แบตเตอรี่ใหญ่ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 70W
- TECNO POVA 6 Pro 5G ราคา 7,999 บาท
5. ROG Phone 8 Series
มือถือเกมมิ่งจาก ASUS ที่แบ่งออกเป็นรุ่นพื้นฐานและรุ่น Pro โดยตัวท็อปอย่าง ROG Phone 8 Pro จะมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ 165Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 3 รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 16GB/24GB สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหล ความจุ 512GB/1TB ช่วยให้ลงเกมได้เยอะ กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 5500mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W มาพร้อมปุ่ม AirTrigger และระบบระบายความร้อน GameCool 8 รันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย ROG UI
- ROG Phone 8 12GB/256GB ราคา 29,990 บาท
- ROG Phone 8 Pro 16GB/512GB ราคา 37,990 บาท
- ROG Phone 8 Pro Edition 24GB/1TB ราคา 47,990 บาท
6. Nothing Phone (2)
มือถือรุ่นที่สองของ Nothing ที่มีดีไซน์หลังเครื่องแตกต่างจากมือถือทั่วไป โดยในรุ่นนี้ Glyph Interface จะสามารถตั้งค่าแสงและเสียงให้แสดงแจ้งเตือนได้หลากหลายกว่ารุ่นแรก ส่วนด้านสเปกก็ประกอบไปด้วย หน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 1-120Hz ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8+ Gen 1 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลังคู่ 50MP กล้องหน้า 32MP มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น IP54 แบตเตอรี่ 4700mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W ชาร์จไร้สาย 15W ชาร์จแบบรีเวิร์ส 5W และรันระบบปฏิบัติการ Android ครอบทับด้วย Nothing OS 2.0
- Nothing Phone (2) 12GB/256GB ราคา 24,990 บาท
- Nothing Phone (2) 12GB/512GB ราคา 27,990 บาท
วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ
ในการจะซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่สักเครื่องนั้น นอกจากจะเลือกจากความชอบส่วนตัวแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ของการนำมาใช้งาน สเปกและความแรงของมือถือ ราคาพอดีกับงบหรือไม่ รวมทั้งช่องทางในการสั่งซื้อ ไปจนถึงวิธีการตรวจเช็กตัวเครื่องเบื้องต้น โดยสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ต้องเช็กอะไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการมีไฟที่ด้านหลังโทรศัพท์มือถือจะเพิ่มความสวยงามและความเท่ได้ แต่ก็อาจกินแบตเตอรี่กว่าปกติได้บ้างเล็กน้อย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะสามารถตั้งค่าปิดไฟหรือปรับให้มีการแสดงไฟเฉพาะในบางเวลาได้ เพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่นั่นเองครับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : asus.com, nothing.tech, tecno-mobile.com, infinixmobility.com, redmagic.gg