เจาะลึกสาเหตุวิกฤติแรมแพง ทำไมราคาแรมถึงสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2025 กระทบอะไรบ้าง ราคาจะลงเมื่อไหร่ ควรซื้อเลยหรือรอไปก่อนดี ?
ภาพจาก : LariBat / shutterstock.com
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่แอบเข้าเว็บเช็กราคาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บ่อย ๆ หรือกำลังจะประกอบคอมพิวเตอร์ในช่วงปลายปี 2025 แล้วต้องชะงักว่าทำไมราคาแรมแพงขึ้นจากไม่กี่เดือนก่อนหลายเท่าตัวจนน่าตกใจ รวมถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ อย่าง SSD ก็เริ่มถูกปรับราคาให้สูงขึ้นเช่นกัน จนหลายคนลังเลว่าจะซื้อหรืออัปเกรดดีไหม หรือรอให้ราคาลดลงก่อนดี แต่จะต้องรออีกนานเท่าไหร่ และเพราะอะไรราคาแรมถึงพุ่งกระฉูดขนาดนี้กันนะ วันนี้เราจะมาเล่าให้เข้าใจในแบบง่าย ๆ กัน
ทำไมแรมถึงแพงขึ้น ?
ปัญหาราคาแรมแพงขึ้นในปีนี้ ไม่ได้เกิดจากเหตุผลเดียว แต่อาจเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัยรวมกัน จนทำให้ราคาเด้งขึ้นอย่างรวดเร็ว
1. กระแส AI ทำให้ทั่วโลกต้องการแรมมากกว่าที่เคย
ช่วงหลังมานี้ AI กลายเป็นเทรนด์โลกที่ขยายตัวรวดเร็วเกินคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริษัทใหญ่ ๆ ที่ต้องใช้แรมและ SSD สำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในการทำงาน AI อย่างเช่นการเทรนด์ AI ซึ่งยิ่งอุปกรณ์ต้องทำงานเร็วขึ้น การใช้แรมจำนวนมากก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือในตอนนี้แรมได้กลายเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็อยากได้ในเวลาเดียวกัน ผลลัพธ์ก็คือความต้องการพุ่งสวนทางกับกำลังในการผลิต และนี่ก็ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาแรมพุ่งสูงขึ้นในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน
2. ผู้ผลิตแรมเคยลดสายการผลิต เพราะราคาตกต่ำในปีก่อนหน้า
ในช่วงปี 2023–2024 ตลาดแรมเคยเกิดภาวะของล้นตลาด ทำให้ราคาตกฮวบจนหลายโรงงานตัดสินใจลดการผลิตลง เพื่อไม่ให้ขาดทุนยาว แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2025 ความต้องการกลับมากระโดดขึ้นแบบสายฟ้าแลบ โดยเฉพาะจากตลาด AI ทำให้เกิดปัญหาโรงงานผลิตไม่ทันในทันที เพราะการจะขยายกำลังผลิตต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี ไม่ใช่แค่เปิดสวิตช์แล้วผลิตเพิ่มได้ในวันถัดไป และนี่ก็คืออีกหนึ่งสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ช่วงปลายปี 2025 ราคาแรมถูกปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3. หนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ออกจากตลาดกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป
ในช่วงปลายปี 2025 มีข่าวว่าหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตหน่วยความจุรายใหญ่มีแผนจะยุติการผลิตแรมและ SSD ในตลาดผู้บริโภคทั่วไป (Consumer Market) เพื่อมุ่งเน้นไปที่ตลาด Enterprise และ AI ที่ทำกำไรได้มากกว่า ซึ่งสิ่งนี้สร้างความตื่นตระหนกและทำให้ซัพพลายในตลาดหายไปส่วนหนึ่งทันที และนั่นก็อาจส่งผลให้แรมที่ผลิตออกมาจำหน่ายสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ใช้ทั่วไปมีน้อยลง ส่งผลให้ราคาแพงขึ้นไปอีก
สินค้าอื่น ๆ อะไรบ้างที่จะแพงขึ้นตามไปด้วย ?
ภาพจาก : Sashkin / shutterstock.com
เมื่อแรมและหน่วยความจำเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของอุปกรณ์ไอที ราคาที่สูงขึ้นจึงอาจส่งผลแบบลูกโซ่ไปยังสินค้าอื่น ๆ ด้วย เช่นสินค้าดังต่อไปนี้
- SSD
- โน้ตบุ๊ก
- คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
- โทรศัพท์มือถือ
- การ์ดจอ
- แฟลชไดรฟ์
- microSD
ควรซื้อเลยหรือรอให้ราคาลดลงก่อนดี ?
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อแรมหรือ SSD รวมทั้งการประกอบคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงการซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ถูกปรับราคาให้แพงขึ้นในช่วงนี้ ถ้าหากมีความจำเป็นต้องใช้ แนะนำให้ซื้อเลยโดยไม่ต้องรอ เพราะแนวโน้มราคายังเป็นขาขึ้นหรือทรงตัวสูงไปอีกอย่างน้อย 6-12 เดือน (ช่วงปลายปี 2026 หรืออาจนานกว่านั้น) จนกว่าตลาด AI จะซบเซาลงหรือซัพพลายจะเริ่มกลับมาสมดุลอีกครั้ง ซึ่งการรออาจทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเดิมหรือหาของยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อแนะนำนี้เป็นเพียงการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้เท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วราคาแรมและสินค้าต่าง ๆ อาจจะราคาลดลงเร็วกว่านี้ หรืออาจจะไม่ลดลงไปอีกนานหลายปีก็ได้เช่นกันครับ






